TFG คาด H2/64 ดีมานด์เพิ่มขึ้น-ราคาสุกรกลับมาฟื้นตัว หนุนรายได้ปีนี้โต 10-15%

นายเพชร นันทวิสัย ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทฯ คาดปริมาณความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์ น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงแนวโน้มราคาสุกรก็เริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้น ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานในปี 64 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ หรือเติบโตในระดับ 10-15% โดยธุรกิจสุกรจะขยายตัวจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น และราคาที่อยู่ในระดับที่ดี อีกทั้งราคาขายในเวียดนาม ยังคงยืนในระดับสูงเช่นกัน

นอกจากนี้การขยายฟาร์มระดับพ่อแม่พันธุ์สุกรทั้งในประเทศไทย และเวียดนาม เริ่มดำเนินไปแล้วบางส่วน อีกทั้งยังได้รับปัจจัยบวกจากการได้รับใบอนุญาตให้ส่งออกไปที่สหภาพยุโรป (EU) เพิ่มเติมในส่วนของสินค้าปรุงสุก รวมไปถึงการขยายธุรกิจร้านสะดวกซื้อ สำหรับเนื้อสดในรูปแบบตลาดสดภายใต้ชื่อร้าน Thai foods fresh market (ตลาดสดไทยฟู้ดส์) ปัจจุบันมี 21 สาขา ตั้งเป้า 50 สาขาในปีนี้ เพื่อมั่นใจในคุณภาพระดับสูงทุกสาขาจะเข้าสู่มาตรฐานการรับรอง “ปศุสัตว์OK ” ของกรมปศุสัตว์ ในส่วนของเนื้อสุกร,เนื้อไก่และไข่ไก่สด ซึ่งถือเป็นสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเนื้อสัตว์ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมน่าจะดีขึ้น ช่วยผลักดันรายได้กำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

สำหรับในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 บริษัทฯ และบริษัทในเครือ ในฐานะผู้ผลิตสินค้าปศุสัตว์ ผลิตภัณฑ์ไก่และสุกร เห็นความสำคัญและตระหนักถึงความปลอดภัยและความพึงพอใจของผู้บริโภคเป็นสำคัญ สุกรและไก่ทุกตัวที่เลี้ยงภายใต้ระบบการเลี้ยงของบริษัท จะถูกเลี้ยงอยู่ในภายในฟาร์มที่ได้รับรองมาตรฐานฟาร์ม (GAP Standard) จากกรมปศุสัตว์ โดยระบบการเลี้ยงแบบ EVAP system 100% ทุกโรงเรือนจะมีการควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น และการระบายอากาศภายในโรงเรือน และเป็นไปตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ “Five Freedoms” อีกทั้งยังได้รับการดูแลการจัดการจากสัตวบาลที่มีประสบการณ์ และมีสัตวแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลด้านสุขภาพของสัตว์

รวมทั้ง TFG ยังมีระบบการควบคุมคุณภาพตลอดทั้งห่วงโซ่การผลิต สุกรและไก่ ซึ่งจะได้รับอาหารจากโรงงานอาหารสัตว์ ที่มีมาตรฐานทั้ง GMP และ HACCP กระบวนการขนส่ง ไปจนถึงโรงชำแหละที่ได้รับรองมาตรฐานการส่งออก และมีกระบวนการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพจากฟาร์มถึงโรงงาน โดยทีม Food Safety เพื่อให้มั่นใจได้อย่างเต็มที่ว่าผลิตภัณฑ์ไก่และสุกร มีความปลอดภัยจากยาปฏิชีวนะตกค้าง ปลอดสารเร่งเนื้อแดง ปลอดภัยจากสารเคมี และปลอดภัยจากเชื้อโรคต่างๆ ที่จะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคอย่างแน่นอน

“ในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่นนี้ บริษัทฯ ได้มีนโยบายเน้นย้ำและเพิ่มความเข้มงวดในกระบวนการควบคุมคุณภาพ มีการพ่นฆ่าเชื้อโรคอย่างสม่ำเสมอในทุกจุดตลอดการเลี้ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านมาตรการรักษาสุขอนามัย โดยพนักงานทุกคนที่มีการปฏิบัติงานที่ต้องสัมผัสกับสัตว์ และกระบวนการเลี้ยงสัตว์ ตลอดจนภายในโรงชำแหละ ต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย จุ่มเท้าฆ่าเชื้อ สเปรย์มือด้วยแอลกอฮอล์ สวมหน้ากากอนามัย และมีการตรวจสอบทุกครั้งก่อนเข้าปฏิบัติงาน ขณะที่บริษัทฯใส่ใจความปลอดภัยต่อผู้บริโภค จึงแนะนำให้เลือกซื้อเนื้อสัตว์ด้วยความระมัดระวัง โดยพิจารณาจากผู้ผลิตที่มีมาตรฐาน และมีมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่ดี”

นายเพชร กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.ค. 64)

Tags: , , ,
Back to Top