ตร.เตือนภัยมิจฉาชีพสร้างแอปพลิเคชั่นดักรับข้อมูลส่วนตัวไปใช้ในทางทุจริต

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เปิดเผยถึงแนวทางในการป้องกันแอปพลิเคชั่นที่เหล่ามิจฉาชีพใช้ในการดักรับข้อมูล โดยระบุว่า ในปัจจุบันเทคโนโลยีมีการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีนักพัฒนาแอปพลิเคชั่นต่างๆ บนโทรศัพท์เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทั้งในระบบ ios และ android อีกทั้งบุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลต่างๆ รวมถึงใช้บริการจากแอปพลิเคชั่นได้สะดวกยิ่งขึ้น แต่ก็มีเหล่ามิจฉาชีพอาศัยช่องว่างดังกล่าวในการกระทำความผิด

ตามที่มีการนำเสนอทั้งในสื่อไทยและสื่อต่างประเทศ พบว่ามีเหล่ามิจฉาชีพสร้างแอปพลิเคชั่นขึ้นมา เพื่อดักเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานไม่ว่าจะเป็น ชื่อ-สกุล รหัสประจำตัวประชาชน รวมถึงรหัสผ่านต่างๆ ในบางกรณีจะมีให้กรอกเลขบัตรเครดิต หรือข้อมูลทางการเงิน หลังจากนั้นมิจฉาชีพก็อาจนำข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปใช้แสวงหาประโยชน์ในทางทุจริต ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างก็เป็นได้

ทั้งนี้ เบื้องต้นพบว่ามีแอปพลิเคชั่นกลุ่มหนึ่งที่มีการกระทำในลักษณะดังกล่าว จำนวน 9 แอปพลิเคชั่น ได้แก่ Processing Photo, App Lock Keep, Rubbish Cleaner, Horoscope Daily, Horoscope Pi, App Lock Manager, Lockit Master, Inwell Fitness, PiP Photo ซึ่งขณะนี้ได้มีการปิดแอปพลิเคชั่นลักษณะดังกล่าวในบางส่วน

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐาน การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 5 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ดังนั้น ขอฝากเตือนภัยและประชาสัมพันธ์แนวทางการป้องกันหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ ดังนี้ ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแอปพลิเคชั่นก่อนจะนำมาใช้ทุกครั้ง ไม่ควรยินยอมให้เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวในโทรศัพท์ และหากไม่แน่ใจถึงความปลอดภัยในการใช้แอปพลิเคชั่นดังกล่าว ไม่ควรกรอกข้อมูลส่วนบุคคล หรือหลีกเลี่ยงไปใช้แอปพลิเคชั่นอื่นแทน

ในกรณีทราบภายหลังว่าแอปพลิเคชั่นดังกล่าวมาหลอกนำข้อมูลไปใช้ ให้รีบเปลี่ยนรหัสผ่านทันที และรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคาร สถาบันทางการเงิน เป็นต้น นอกจากนี้ หากพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิดสามารถแจ้งไปยัง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.ค. 64)

Tags: , , , , , ,
Back to Top