สหรัฐสั่งหน่วยงานรัฐบาลในพื้นที่โควิดระบาดหนักต้องสวมหน้ากากอนามัย

สำนักงานบริหารและงบประมาณ (OMB) ของทำเนียบขาวประกาศให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางหลายแห่งในพื้นที่ๆ มีการแพร่ระบาดอย่างหนักของโรคโควิด-19 นั้น บังคับใช้มาตรการสวมหน้ากากอนามัยภายในอาคารสำนักงาน

นายเจสัน มิลเลอร์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารจัดการของ OMB ระบุว่า “เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการป้องกันโรคในพื้นที่ๆ มีการระบาดอย่างต่อเนื่องหรือในระดับสูง ตามที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) ระบุไว้ จึงขอให้หน่วยงานของรัฐกวดขันให้เจ้าหน้าที่ ผู้รับเหมา และผู้มาติดต่อสำนักงานต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ไม่ว่าจะฉีดวัคซีนแล้วหรือยังไม่ฉีดก็ตาม โดยเริ่มตั้งแต่วันพุธนี้ (28 ก.ค.) เป็นต้นไป รวมทั้งในกรุงวอชิงตัน”

ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) ออกกฎให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วกลับมาสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในอาคารอีกครั้ง โดยกฎดังกล่าวจะมีการบังคับใช้ในบางพื้นที่ซึ่งพบอัตราการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาในระดับสูง

CDC ระบุว่า เกือบ 67% ของเคาน์ตีในสหรัฐมีอัตราการแพร่ระบาดในระดับสูงเมื่อวันพุธ เพิ่มขึ้นจากระดับ 63.4% เมื่อวันอังคาร

ทางด้านรัฐบาลกลางสหรัฐกำลังเร่งควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อหลีกเลี่ยงการล็อกดาวน์ทั้งประเทศในอนาคต เนื่องจากพื้นที่บางแห่งในสหรัฐมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาและยังมีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ

ทั้งนี้ คาดว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะประกาศข้อบังคับเพิ่มเติมสำหรับหน่วยงานของรัฐบาลกลางในวันนี้ (29 ก.ค.)

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ก.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top