สภาพัฒน์ เผยเงินกู้ฟื้นศก.เน้นช่วยจ้างงาน-กระตุ้นบริโภค เร่งหามาตรการช่วย SME

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ เปิดเผยถึงภาพรวมโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมใน พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท โดยมีวงเงินเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ 4 แสนล้านบาทว่า ขณะนี้มีงบประมาณเหลืออยู่ประมาณ 4,000 ล้านบาท

โดยมีการอนุมัติโครงการไปแล้วประมาณ 200-300 โครงการใน 2 ลักษณะ ประกอบด้วย

ลักษณะแรก เป็นการจ้างงานตรง อนุมัติไปตั้งแต่ช่วงประมาณปลายปี 2563 และเริ่มมีการจ้างงานตรงไปที่นักศึกษาจบใหม่ หรือคนที่ว่างงานและกลับไปอยู่ในที่พื้นที่ เป็นการจ้างงานแบบกระจายไปในหลายพื้นที่ ผ่านหลาย

ลักษณะที่สอง เป็นการสร้างงานสร้างอาชีพในพื้นที่ เป็นโครงการระยะยาวที่ให้กับเกษตรกร ให้มีความมั่นคงในด้านอาชีพ มีปัจจัยในการผลิตที่เพียงพอในการนำไปใช้ในการผลิตด้านการเกษตร

ขณะที่ อีกส่วนหนึ่งที่อยู่นอกเหนือแผนฟื้นฟูเป็นเรื่องของการกระตุ้นการบริโภคโดยตรง เช่น โครงการคนละครึ่ง โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งส่งผลกระทบกับระบบเศรษฐกิจในภาพใหญ่ค่อนข้างมาก

“เห็นได้ชัดในการจ้างงาน เท่าที่ดูตัวเลขการจ้างงานขณะนี้อยู่ที่ 3-4 แสนราย ทำให้อย่างน้อยคนมีรายได้และมีการใช้จ่าย สำหรับผลกระทบกับเศรษฐกิจภาพรวมนั้นในแง่ของการบริโภคสามารถช่วยพยุงเศรษฐกิจได้ในระดับหนึ่งโดยเฉพาะในพื้นที่ชุมชน”

นายดนุชา กล่าวว่า ในภาพรวมของผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง เพราะมีความก้าวหน้า มีการจ้างงานมากขึ้น กลุ่มเกษตรกรเริ่มเข้าใจว่าการเกษตรไม่จำเป็นต้องทำมากแต่ต้องทำให้มีคุณภาพ โดยเริ่มจากเล็ก ๆ แล้วค่อยขยายออกไป ซึ่งในระยะยาวจะเป็นผลดีต่อความมั่นคงในด้านอาชีพการเกษตร

สำหรับการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนในระยะต่อไป รัฐบาลได้ออก พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาทแล้ว สำหรับฟื้นฟูเศรษฐกิจประมาณ 170,000 ล้านบาท

ในระยะถัดไปสภาพัฒน์กำลังหารือร่วมกับหน่วยงานเศรษฐกิจ อาทิ กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่าจะเริ่มดำเนินโครงการที่จะช่วยผู้ประกอบการ SMEs ทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบอยู่ในลักษณะอย่างไร

“รัฐบาล จะต้องดูแลอย่างจริงจัง ในภาค SMEs ซึ่งได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก แม้ได้มาตรการที่เน้นช่วยเหลือประชาชนโดยตรง ในขณะที่ผู้ประกอบการยังไม่ได้รับการช่วยเหลือมากนัก”

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ส.ค. 64)

Tags: , , , , , ,
Back to Top