สธ.จัดทำคู่มือ Bubble and Seal คุมโควิดในสถานประกอบการ-หนุนศก.เดินหน้าต่อ

นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานประชุมหน่วยงานในสังกัดกรมควบคุมโรคเพื่อชี้แจง สื่อสาร สร้างความเข้าใจถึงมาตรการ และกลไกการดำเนินงาน ตามมาตรการป้องกันควบคุมในพื้นที่เฉพาะ (Bubble and Seal) โดยดำเนินการในลักษณะของพี่เลี้ยง ให้คำปรึกษา และกำกับติดตาม (Coaching System) แก่จังหวัดในพื้นที่เขตรับผิดชอบ เพื่อทำหน้าที่ให้การสนับสนุนแนวทางมาตรการ Bubble and Seal ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ พร้อมทั้งหารือแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับมาตรการในสถานประกอบกิจการ

นพ.อภิชาติ กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแพร่ระบาดในสถานประกอบกิจการ จึงได้มีการจัดทำคู่มือมาตรการ Bubble and Seal ซึ่งดำเนินการภายใต้หลักการ จัดกลุ่ม คุมไว ลดการแพร่กระจาย รายได้ไม่สูญเสีย ให้เป็นแนวทางปฏิบัติในการเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สำหรับสถานประกอบกิจการ เพื่อสามารถป้องกันและควบคุมการติดเชื้อโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งมอบหมายให้กองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม เป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานและจัดประชุมชี้แจง สื่อสาร สร้างความเข้าใจ เกี่ยวกับมาตรการ Bubble and Seal

มาตรการป้องกันควบคุมในพื้นที่เฉพาะ (Bubble and Seal) ในสถานประกอบกิจการ สามารถดำเนินการได้ตั้งแต่สถานประกอบกิจการที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพื่อเป็นการป้องกัน ไปจนถึงโรงงานที่มีการติดเชื้อแล้ว เพื่อเป็นการควบคุมการแพร่ระบาดจากภายในสู่ภายนอกและจากชุมชนสู่สถานประกอบกิจการ โดยผ่านกลไกระบบพี่เลี้ยงจาก สำนักงานป้องกันควบคุมโรค (สคร.) และสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) สู่หน่วยงานระดับจังหวัด ตามแนวคิดของนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข

นพ.อภิชาต กล่าวว่า มาตรการนี้เหมาะสำหรับกลุ่มคนที่แข็งแรง สามารถอยู่เป็นกลุ่มในพื้นที่จำกัด ใช้หลักการสำคัญคือนำผู้ติดเชื้อไปรักษายังโรงพยาบาลสนาม และเฝ้าระวังคนที่มีอาการ ส่วนพนักงานที่ไม่ติดเชื้อ ก็ยังสามารถทำงานต่อไป ส่งผลดีเอื้อประโยชน์ให้ทุกฝ่าย คือ สถานประกอบกิจการดำเนินการได้ แรงงานได้เงิน ได้ค่าจ้าง ไม่หนีไปแพร่โรค เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้

ด้าน พญ.หรรษา รักษาคม ผู้อำนวยการกองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า จากข้อมูลการเฝ้าระวังของกองโรคจากการประกอบอาชีพฯ ข้อมูลล่าสุด วันที่ 1 พ.ค.-8 ส.ค. 64 พบมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสถานประกอบการ 5 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม 25.82% รองลงมา คือ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ 15.24% กลุ่มก่อสร้าง 14.08% กลุ่มผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก 8.26% และกลุ่มการขายส่ง/ขายปลีก 6.61% จึงต้องเร่งดำเนินการป้องกันและควบคุม ทั้งสถานประกอบกิจการที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อและพบผู้ติดเชื้อยืนยันแล้ว

โดยกรมควบคุมโรค ได้จัดทำแนวทางมาตรการ Bubble and Seal โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.เพื่อป้องกันโรค ภายใต้หลักการคือ “จัดกลุ่ม คุมไว ลดการแพร่กระจาย รายได้ไม่สูญเสีย” โดยการคัดแยกพนักงานออกเป็นกลุ่ม ให้ทำงานและทำกิจกรรมร่วมกันภายใต้เงื่อนไขตามระยะเวลาที่กำหนด และ 2.เพื่อการควบคุมโรค ใช้เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ลดการเสียชีวิต พร้อมทั้งทำการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุม การแพร่ระบาดและลดการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 ในสถานประกอบกิจการ ไม่ให้แพร่กระจายไปในวงกว้าง โดยเฉพาะการแพร่ระบาดไปยังชุมชน

ทั้งนี้ มาตรการป้องกันควบคุมในพื้นที่เฉพาะ (Bubble and Seal) ยังต้องดำเนินการควบคู่กับมาตรการส่วนบุคคล D-M-H-T-T-A ประกอบด้วย การเว้นระยะห่างทางบุคคล การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือ การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย การตรวจสอบการติดเชื้อด้วยชุดทดสอบรู้ผลเร็ว การใช้แอปพลิเคชันเกี่ยวกับโควิด-19 เช่น หมอพร้อม และมาตรการทางสังคม ระหว่างโรงงานและชุมชน ทั้งหมดนี้ จะทำให้สถานประกอบกิจการดำเนินการต่อได้ โรงงานปลอดภัย ไม่แพร่เชื้อไปสู่ชุมชน ลดการเสียชีวิต ไม่กระทบเศรษฐกิจของประเทศ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ส.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top