กก.สมานฉันท์ แนะรัฐเปิดเวทีเจรจาลดปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง

นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่มีความรุนแรง ทำให้คณะกรรมการสมานฉันท์มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ โดยวันนี้จึงได้ส่งความเห็นไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งรัฐบาล เพื่อเป็นทางออกให้กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นคณะกรรมการสมานฉันท์ มีแนวทางดังนี้

1. เรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญ

2. ยุติการใช้ความรุนแรงเน้นการเจรจาแก้ไขปัญหา

3. เปิดพื้นที่ปลอดภัยให้มีการเจรจา

4. ตั้งคณะกรรมตรวจสอบข้อเท็จจริงการใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอย่างในอดีต

ด้านนายสุริชัย หวันแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาสันติภาพและความขัดแย้ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งในกรรมการสมานฉันท์ กล่าวว่า ขณะนี้การทำงานของคณะกรรมการสมานฉันท์ได้ข้อสรุปเบื้องต้นแล้ว ว่าจะทำเป็นรายงานเพื่อเสนอต่อประธานรัฐสภา แต่จากสถานการณ์ความขัดแย้งและมีความรุนแรงที่ยังเกิดขึ้นในช่วงนี้ คณะกรรมการสมานฉันท์ ได้มีความห่วงใยจึงได้เสนอทางออกไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวต้องในลักษณะแนะนำ

นายสุริชัย กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลและภาครัฐทำได้ทันทีเวลานี้ คือการแสดงท่าทีประนีประนอมที่ชัดเจน หรือส่งสัญญาณความพร้อมที่จะปรับท่าทีให้ผู้เห็นต่างได้มีความรู้สึกว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับข้อเรียกร้องเพื่อพัฒนาไปสู่การพูดคุยกัน ทำบรรยากาศให้ประชาชน และผู้เรียกร้องมีความไว้วางใจ และอย่ามองผู้วิจารณ์รัฐบาลว่าเป็นฝ่ายตรงข้าม

“อย่าแสดงความไม่สนใจผู้ออกมาเรียกร้อง และผลักให้เป็นเรื่องของตำรวจ มันก็ยิ่งจะทำให้สถานการณ์แย่ลง ควรจะเปิดพื้นที่ให้คนที่มีปัญหาจริงได้เรียกร้อง เพื่อดูว่ามีปัญหาอะไร แล้วจะแก้ไขปัญหาอย่างไร การใช้กำลังเข้าปราบปรามไปเรื่อย ๆ ไม่ใช่ทางออก มีแต่จะรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อไม่มีช่องทางสื่อสารกัน ผู้ชุมนุมก็จะหาวิธีสื่อสารโดยเรียกร้องความสนใจอย่างที่เห็นกัน” นายสุริชัยกล่าว

พร้อมย้ำว่า การชุมนุมเป็นกระบวนการทางประชาธิปไตยปกติที่รัฐธรรมนูญรองรับสิทธิเสรีภาพไว้อยู่แล้ว มีกฎหมายชุมนุมสาธารณะคอยกำกับดูแล ไม่ได้แปลว่าในสภาวะฉุกเฉินแบบนี้จะห้ามชุมนุมได้ทั้งหมด ทางออกสำคัญคือต้องเปลี่ยนมุมมองให้กว้างกว่าเดิม อย่าไปคิดแค่ว่าเป็นเรื่องการเมือง ฝ่ายค้านก็เช่นเดียวกัน

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ส.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top