ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 21,157 ราย

  • ศบค.สรุปยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทย วันนี้ (12.30 น.)
  • ผู้ติดเชื้อสะสม 928,314 คน (+21,157)
    • เป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ = 16,863 ราย
    • เป็นผู้ติดเชื้อจากการตรวจเชิงรุกในชุมชน = 3,630 ราย
    • เป็นผู้ติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง = 658 ราย
    • เป็นผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) = 6 ราย
  • รักษาหายแล้ว 709,646 คน (+20,984)
  • รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 210,934 คน (-9)
  • เสียชีวิตสะสม 7,734 คน (+182)

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 21,157 ราย ประกอบด้วย

– ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 16,863 ราย

– จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 3,630 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 658 ราย

– ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 6 ราย

– เสียชีวิต 182 ราย มาจากกัมพูชา 5 ราย อิสราเอล 1 ราย

– เสียชีวิต 182 ราย เพศชาย 104 ราย เพศหญิง 78 ราย อายุระหว่าง 7 เดือน-101 ปี (ค่ากลาง 63 ปี) โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ยังเป็นผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัว จากกทม. 64 ราย

สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 928,314 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายเพิ่มขึ้น 20,984 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 7,733 ราย

ขณะที่จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 10 อันดับ ได้แก่ กรุงเทพฯ 4,324 ราย, สมุทรสาคร 1,869 ราย, ชลบุรี 1,233 ราย, สมุทรปราการ 1,147 ราย, นนทบุรี 790 ราย, นครราชสีมา 547 ราย, ฉะเชิงเทรา 540 ราย, สระบุรี 470 ราย, นครปฐม 449 ราย, พระนครศรีอยุธยา 420 ราย โดยในวันนี้ไม่พบคลัสเตอร์ใหม่

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวว่า สำหรับผู้ติดเชื้อใน กทม. พบ 4,324 ราย มาจากการตรวจเชิงรุก 2,403 ราย เข้ามาตรวจที่โรงพยาบาล 1,783 ราย ส่วนการตรวจ Antigen Test Kit (ATK) พบ 12% ซึ่งต้องนำไปสู่การลงตรวจเพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อให้มากขึ้น และทางกทม.ก็ได้มีการจัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วที่ทำงานต่อเนื่อง และจากตรวจของหน่วยตรวจเชิงรุกในชุมชน CCRT เมื่อวานนี้ มีการตรวจ 1,810 ราย พบผลบวก 222 ราย และทั้งหมดก็เข้าสู่ระบบ Home Isolation และต้องขอความร่วมมือคนที่เข้าระบบ Home Isolation อยู่บ้านตลอดเวลาอย่างน้อย 14 วัน อย่าเพิ่งออกไปไหน หลังจากเมื่อวานนี้มีข่าวว่า ออกไปร้านสะดวกซื้อ จึงอยากขอความร่วมมือด้วย

นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์ ได้สรุปสถานการณ์ท่องเที่ยวโครงการภูเก็ตแซนด์ บ็อกซ์ ว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 1-31 ก.ค. 64 มีจำนวนนักท่องเที่ยว 14,055 คน ไม่พบผู้ติดเชื้อ 14,022 คน พบผู้ติดเชื้อ 441 คน เป็นคนไทย 409 คน ชาวต่างชาติ 32 คน โดยมีจำนวนเที่ยวบิน 141 เที่ยวบิน และมีจำนวนคืนของผู้เข้าพัก 309,719 คืน และประเทศนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 1,802 คน สหราชอาณาจักร 1,558 คน อิสราเอล 1,455 คน เยอรมนี 847 คน ฝรั่งเศส 839 คน จำนวนคืนพัก 190,843 คืน สร้างรายได้ รวม 829 ล้านบาท และส่งผลต่อเศรษฐกิจในด้านอื่นๆ ประกอบด้วย

– เงินหมุนเวียนที่ก่อรายได้เศรษฐกิจ 1,925 ล้านบาท

– ผลกระทบด้านเศรษฐกิจโดยรวม 816 ล้านบาท

– ผลตอบแทนการจ้างงาน 210 ล้านบาท

– จำนวนการจ้างงาน 2,719 คน และมีรายได้ภาษี รวม 87 ล้านบาท

ส่วนช่วง 1 ก.ค.-14 ส.ค. มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีก 20,727 คน พบผู้ติดเชื้อรวม 57 คน โดยมีจุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับ หลังจากพำนักในภูเก็ต 14 วัน ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สุราษฏร์ธานี เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ และ ชลบุรี และเมื่อสำรวจความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวในภูเก็ตแซนด์ บ็อกซ์ ระหว่าง 11 ก.ค.-10 ส.ค. ใน 5 อันดับแรก ประกอบด้วย 1.คุณภาพของรถบริการรับ-ส่ง SHA+ ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต 2. ภาพรวมของการให้บริการ ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต 3.การจองรถบริการรับ-ส่ง SHA+ ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต 4.การจองที่พัก SHA+ 5.การตรวจคัดกรองเมื่อเดินทางมาถึง

สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 207,984,087 ราย เสียชีวิต 4,374,761 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 37,466,718 ราย อันดับ 2 อินเดีย 32,225,175 ราย อันดับ 3 บราซิล 20,364,099 ราย อันดับ 4 รัสเซีย 6,600,836 ราย และอันดับ 5 ฝรั่งเศส 6,471,035 ราย ส่วนประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ในอันดับที่ 35

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ส.ค. 64)

Tags: , , ,
Back to Top