ยอดติดเชื้อโควิดในเขตเมืองหลวงออสเตรเลียพุ่งทำนิวไฮ หลังล็อกดาวน์ 12 วัน

เขตเมืองหลวงออสเตรเลีย (ACT) ตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ติดเชื้อในท้องถิ่นเพิ่ม 30 ราย ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ ขณะที่ทางการได้ดำเนินมาตรการล็อกดาวน์มาแล้ว 12 วันเต็ม

การตรวจพบนี้ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดข้างต้นในกรุงแคนเบอร์ราเพิ่มขึ้นเป็น 167 ราย โดยในจำนวนนี้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 4 ราย

ในจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ของวันนี้มี 13 รายที่กักตัวตลอดระยะเวลาการติดเชื้อ ขณะที่ยังไม่ทราบแหล่งการติดเชื้อของผู้ป่วยอีก 5 ราย

แอนดรูว์ บาร์ หัวหน้ามุขมนตรี ACT ระบุว่า ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่าจะขยายระยะเวลามาตรการล็อกดาวน์ต่อจากวันที่ 2 ก.ย. หรือไม่ แต่จำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อในชุมชนนั้นน่าเป็นกังวล

“เราดำเนินมาตรการล็อกดาวน์เพื่อลดโอกาสการแพร่เชื้อ ยิ่งมีประชาชนในแคนเบอร์ราฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มากเท่าไร เราก็ยิ่งปกป้องชุมชนจากเชื้อไวรัสฯ ได้มากเท่านั้น” บาร์ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว

เคอร์ริน โคลแมน หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายสุขภาพของ ACT ระบุว่า แม้ยอดผู้ป่วยรายใหม่อาจเป็นเรื่องน่าตกใจสำหรับชุมชน แต่หน่วยงานรัฐได้คาดการณ์ไว้แล้ว

“จากผู้ป่วยรายใหม่ทั้งหมด 30 รายของวันนี้ มี 25 รายที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันแล้ว หรือเชื่อมโยงกับการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนที่ยังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน” โคลแมนกล่าว พร้อมขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก

กระทรวงสาธารณสุขของออสเตรเลียระบุว่า ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสม 44,922 ราย เมื่อนับถึงบ่ายวันจันทร์ (23 ส.ค.) หลังตรวจพบผู้ป่วยเพิ่ม 909 รายในระยะ 24 ชั่วโมง ซึ่งส่วนมากเป็นการติดเชื้อในท้องถิ่น

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อเช้าวันนี้ รัฐนิวเซาธ์เวลส์ ซึ่งมีจำนวนประชากรสูงสุดของออสเตรเลียและมีซิดนีย์เป็นเมืองเอก รายงานพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ติดเชื้อในท้องถิ่นเพิ่ม 753 ราย ส่วนรัฐวิกตอเรียที่มีจำนวนประชากรสูงเป็นอันดับ 2 และมีเมลเบิร์นเป็นเมืองเอก พบผู้ป่วยที่ติดเชื้อในท้องถิ่นเพิ่ม 50 ราย โดยล่าสุดมีประชากรราวครึ่งหนึ่งของประเทศในรัฐนิวเซาธ์เวลส์ วิกตอเรีย และเขตเมืองหลวงของออสเตรเลีย ที่ยังอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ส.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top