หุ้นไทยปิดเช้าบวก 6.64 จุด คล้ายตลาดภูมิภาค เก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว

SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,641.12 จุด เพิ่มขึ้น 6.64 จุด (+0.41%) มูลค่าการซื้อขายราว 54,299 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ชะลอตัวหลังขึ้นไปหลายวัน คล้ายตลาดภูมิภาคที่เช้านี้แกว่งทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อยหลังตอบรับปัจจัยบวกไปมากแล้ว ส่วนบ้านเราช่วงสั้นพักตัวก่อนหลังตอบรับโควิดในประเทศดูดีขึ้น-เฟดไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย อย่างไรก็ดีอยู่ในช่วงเฝ้าระวังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศจะเป็นอย่างไรหลังคลายล็อกดาวน์ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนี้หุ้นเปิดเมืองก็เริ่มเจอแรงขายทำกำไร-หันไปเล่นเก็งหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว ส่วนราคาน้ำมันชะลอหลังสหรัฐฯกดดันกลุ่มโอเปกให้เพิ่มกำลังการผลิต-ตอบรับเรื่องพายุเฮอริเคนไปแล้ว เช้านี้กลุ่มพลังงานจึงทรงตัวหลังชะลอตัวไปตั้งแต่วานนี้ ส่วนกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์แย่ลงหลังบาทแข็งค่าขึ้น แต่มองเป็นโอกาสซื้อจากยังอยู่ในช่วงขาขึ้นชัดเจน บ่ายนี้ตลาดฯคงจะแกว่งซิกแซกออกด้านข้าง โดยมีแนวรับ 1,628-1,615 แนวต้าน 1,642 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,641.12 จุด เพิ่มขึ้น 6.64 จุด (+0.41%) มูลค่าการซื้อขายราว 54,299 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยทำระดับสูงสุด 1,641.91 จุด และระดับต่ำสุด 1,633.12 จุด

นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ชะลอตัวหลังจากที่ปรับตัวขึ้นมาหลายวัน คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย หลังจากที่ตอบรับปัจจัยบวกไปมากแล้ว ทั้งนี้ตลาดบ้านเราช่วงสั้นคงจะพักตัวก่อนหลังจากที่ตอบรับไปมากแล้วทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศที่ดูดีขึ้น และธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไม่เร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย

อย่างไรก็ดี ช่วงนี้อยู่ในช่วงเฝ้าระวังจับตาจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศจะเป็นอย่างไรหลังจากที่ได้คลายล็อกดาวน์ในวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ หุ้นในกลุ่มเปิดเมืองได้ปรับขึ้นไปมากแล้วทำให้เริ่มถูกขายทำกำไรออกมาบ้าง และหันไปเล่นเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว อย่าง CPALL และ MAKRO ที่มีการปรับโครงสร้างภายในกลุ่ม

สำหรับราคาน้ำมันที่ชะลอหลังจากที่สหรัฐฯกดดันกลุ่มโอเปกให้เพิ่มกำลังการผลิต และตอบรับเรื่องพายุเฮอริเคนในช่วงก่อนหน้านี้ไปแล้ว ทำให้หุ้นในกลุ่มพลังงานชะลอตัวลงตั้งแต่เมื่อวานนี้ และเข้านี้ก็อยู่ในทิศทางที่ทรงตัว ส่วนหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่แย่ลงหลังจากที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นทำให้กระทบกำไรขาดทุนของกลุ่มส่งออก แต่มองว่ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์อยู่ในช่วงขาขึ้นชัดเจน จากที่ค่ายรถได้ปรับขยายการผลิต ทำให้ยังขาดแคลนชิ้นส่วนฯอยู่ ดังนั้นจึงมองโอกาสในการซื้อหุ้น HANA และ KCE ที่ยอดขายและกำไรยังเติบโตได้ยาว

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายพิชัย กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งซิกแซกออกด้านข้าง โดยมีแนวรับ 1,628-1,615 จุด ส่วนแนวต้าน 1,642 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

CV มูลค่าการซื้อขาย 2,738.44 ล้านบาท ปิดที่ 4.06 บาท เพิ่มขึ้น 0.16 บาท

U มูลค่าการซื้อขาย 2,485.83 ล้านบาท ปิดที่ 1.49 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,470.74 ล้านบาท ปิดที่ 64.00 บาท ลดลง 1.00 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,905.31 ล้านบาท ปิดที่ 190.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท

MAKRO มูลค่าการซื้อขาย 1,871.02 ล้านบาท ปิดที่ 50.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.ย. 64)

Tags: , ,
Back to Top