ศบค. พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 14,653 ราย ATK 2,327 ตาย 271

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 14,653 ราย ประกอบด้วย

  • ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 13,160 ราย
  • จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 1,235 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 256 ราย
  • ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 2 ราย มาจากกัมพูชา 1 ราย และมาเลเซีย (ช่องทางธรรมชาติ) 1 ราย
  • ส่วนผู้ติดเชื้อเข้าข่าย/ATK 2,327 ราย
  • เสียชีวิต 271 ราย เป็นชาย 134 ราย หญิง 137 ราย อายุเฉลี่ย 67 ปี (23-96 ปี) มีสัดส่วนเป็นผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและเป็นโรคเรื้อรังรวม 90% มีหญิงตั้งครรภ์ใน จ.นราธิวาส 1 ราย เสียชีวิตที่บ้าน/ระหว่างนำส่ง 3 ราย
This image has an empty alt attribute; its file name is 030964Info.jpg

สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 1,249,140 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 18,262 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 12,374 ราย ยังรักษาตัวอยู่ 159,800 ราย อาการหนัก 4,740 ราย ในจำนวนนี้ใส่เครื่องช่วยหายใจ 1,011 ราย

จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ 3,428 ราย สมุทรปราการ 1,237 ราย สมุทรสาคร 859 ราย ชลบุรี 822 ราย ระยอง 541 ราย นราธิวาส 465 ราย ราชบุรี 340 ราย นครราชสีมา 283 ราย สงขลา 279 ราย และนนทบุรี 278 ราย

ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 219,965,335 ราย เสียชีวิต 4,557,084 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 40,513,018 ราย อันดับ 2 อินเดีย 32,902,345 ราย อันดับ 3 บราซิล 20,830,712 ราย อันดับ 4 รัสเซีย 6,956,318 ราย และอันดับ 5 สหราชอาณาจักร 6,862,904 ราย ส่วนประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ในอันดับที่ 29

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกกลับมาทวีความรุนแรงอีกครั้ง แม้จะเป็นประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการได้รับวัคซีนแล้วยังสามารถติดเชื้อได้ แต่อาการป่วยจะไม่รุนแรงและเสียชีวิต และหลังจากมีการปรับมาตรการให้สามารถดำเนินกิจกรรม/กิจการบางอย่าง ทำให้ต้องเฝ้าระวังการลักลอบเดินทางเข้าประเทศที่จะส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดมากขึ้น ขณะที่การติดเชื้อในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลกับต่างจังหวัดมีสัดส่วนพอๆ กัน

สำหรับผู้ที่ติดเชื้อแล้วรักษาหาย หรือติดเชื้อหลังจากฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว ร่างกายจะมีการสร้างภูมิคุ้มกันให้เข้ารับการฉีดวัคซีนได้หลังจากผ่านไป 3 เดือน ขณะเดียวกันจะเร่งยกระดับการดูแลหญิงตั้งครรภ์ที่มีจำนวน 5 แสนรายให้ได้รับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว เนื่องจากเพิ่งมีหญิงตั้งครรภ์ได้รับวัคซีนไปเพียง 4 หมื่นราย โดยในเดือน ส.ค.64 พบหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อ 1,506 ราย และเสียชีวิต 47 ราย โดยแพทย์สามารถช่วยชีวิตทารกได้เพีง 50% ส่วนอีก 50% ติดเชื้อและเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนไปแล้วยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการรักษาสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.ย. 64)

Tags: , , ,
Back to Top