นายกฯ สั่งทีมกม.ฟ้องปมแจก 5 ล้าน ยันสัมพันธ์ 3 ป.แน่น-ไร้ประเด็น “ธรรมนัส”

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย อภิปรายกล่าวหาว่าแจกเงิน ส.ส.คนละ 5 ล้านบาท แลกโหวตไว้วางใจว่า เป็นการพูดของคนที่ไม่มีสติสัมปชัญญะ พูดโดยไม่มีหลักฐาน และเชื่อว่าฝ่ายกฎหมายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

“คิดว่าปล่อยไว้ไม่ได้ เรื่องแบบนี้ เพราะคนแบบนี้ ก็มีพฤติกรรมแบบนี้หลายครั้งแล้ว ช่วงก่อน ก็มีการกรีดเลือดในสภา”

นายกรัฐมนตรีก ล่าว

พร้อมกล่าวว่าการที่มี ส.ส.มาพบก็เป็นการถามสารทุกข์สุกดิบ และทุกคนก็ยืนยันว่าอยู่กับนายกฯ เพราะเขาเป็นคนที่เลือกนายกฯ ในรายชื่อ ก็ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ใครดีก็ดี ใครไม่ดีก็ค่อยว่ากัน ขออย่าไปหวั่นไหวด้วยคำพูดของคนนั้นคนนี้ เพราะจะเดือดร้อน ไม่อยากให้ทุกอย่างวุ่นวายในช่วงการอภิปราย

ผู้สื่อข่าวถามถึงการกรณีล้มหรือไม่ล้มรัฐบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ขึ้นอยู่กับว่าใครทำ เขาทำจริงหรือเปล่า และเขาจะทำต่อหรือไม่ และเขาเชื่อมโยงอยู่กับใคร”

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสัมพันธ์ของ 3 ป. (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และ พล.อ.ประยุทธ์) ซึ่งเป็นชื่อกลุ่มที่สื่อตั้งให้ว่า ได้คุยกันอยู่ตลอดทุกวัน ไม่มีใครมาทำลายความสัมพันธ์ได้ ซึ่งทั้ง พล.อ.ประวิตร และพล.อ.อนุพงษ์ เคยเป็นผู้บังคับบัญชาของตนมาก่อน ร่วมเป็นร่วมตายกันมานาน และที่มาถึงวันนี้ได้ ก็เพราะมีทั้ง 2 คนช่วยสั่งสอน

“ไม่มีใครมาทำลายผมได้หรอก ทุกคนอาจจะไม่รู้ ทุกคนอาจจะไม่รักเพื่อน รักคนอื่น เหมือนผมรักกัน 3 คน ผมร่วมเป็นร่วมตายกันมา ชายแดนผมก็อยู่ ท่ามกลางสนามรบผมก็เคยอยู่ด้วยกัน และท่านเป็นผู้บังคับบัญชาของผมมาตั้งแต่ก้าวแรกที่ผมมารับราชการ อยู่บ้านเดียวกัน กินนอนด้วยกัน สั่งสอนกัน ฝึกอบรมด้วยกัน และโตขึ้นมาก็ยังคบ ยังเคารพกันอยู่ ทุกอย่างที่ผมเป็นวันนี้ได้เพราะพี่ทั้งสองคนได้สั่งสอนมา ไม่ทุจริต ไม่โกง ไม่ว่าจะตีผมอย่างไร ผมไม่มีแตกกันอยู่แล้ว รักกันเหมือนพี่น้องท้องเดียวกัน”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ส่วนการพูดคุยกับแกนนำ หรือ ส.ส.คนอื่นของพรรคพลังประชารัฐนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คงไม่ต้องโทรคุย แต่อาจจะไปเยี่ยมเขา เพื่อให้เห็นความมั่นใจ พร้อมยอมรับว่าที่ผ่านมาตนทำงานมาก จึงอาจมีช่องว่างหรือเหมือนเว้นระยะห่างกับ ส.ส.มากเกินไป ทำให้เกิดความไม่เข้าใจกันในบางเรื่อง ซึ่งจากนี้จะหาโอกาสได้พบปะพูดคุยกับส.ส.ในพรรคให้มากขึ้น และขอปรับเวลาการทำงานของตนก่อน

สำหรับความสัมพันธ์กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ในฐานะเลขาธิการพลังประชารัฐนั้น ไม่เคยมีประเด็นอะไรกัน เพราะเป็นคนชวนให้เข้ามาทำงานเอง ส่วนท่าทีการให้สัมภาษณ์ของทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้แสดงออกว่าจะแก้แค้นทางการเมืองกัน แม้ ร.อ.ธรรมนัส จะให้สัมภาษณ์ด้วยโวหารและความดุเดือดก็เป็นเรื่องของเขา ส่วนตนก็เป็นเรื่องของตน อย่าให้ต้องมาทะเลาะกัน ให้เป็นเรื่องของข้อเท็จจริงดีกว่า

“หรือผู้ใหญ่จะต้องเชื่อฟังเด็กเหรอ ต้องรับฟังซึ่งกันและกัน แต่ผู้ใหญ่ก็คือผู้ใหญ่ เข้าใจหรือไม่ ผมเป็นใคร ผมเป็นนายกฯ แล้วนายกฯ ต้องไปฟังใครที่มันไม่ใช่ ถ้าเรื่องจริงผมฟัง แต่ถ้าเรื่องผลประโยชน์ หรือเรื่องต่างๆ ผมไม่ฟัง และผมยังไม่เห็นมีใครมาพูดกับผมในเรื่องนี้ แต่ก็มีปล่อยข่าวตรงนั้นตรงนี้มา และตัวเลขที่ออกมานั้น เป็นตัวเลขที่ผมเคยได้ยินแล้วว่าจะมาตี และมาจากอีกฝ่ายด้วย”

นายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีแผนสำรองไว้หรือไม่เผื่อรับมืออุบัติเหตุทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แล้วจะทำอย่างไร และถึงแม้จะมีการล้มนายกฯ ก็ต้องไปดูกฎหมายมาตรา 167 มาตรา 168 แต่จะใช่หรือไม่ใช่ก็ไม่รู้ ที่มีการวางแผนกันมา แล้วทำได้หรือเปล่า อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่รู้สึกหวั่นไหว ถึงแม้จะมีปัญหาอยู่บ้าง อาจจะยังไม่สำเร็จหรือสำเร็จไปบ้างแล้ว แต่หลายอย่างที่สำเร็จก็ไม่มีการออกเอามาพูดกัน หลายคนได้ประโยชน์พอใจ แต่บางคนยังไม่ได้ ก็เลยไปเอาส่วนที่ยังไม่ได้ออกมาพูดมาโจมตี

ส่วนความมั่นใจว่าจะผ่านการลงมติในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของสภา เป็นเรื่องของส.ส.เป็นเรื่องความเชื่อถือ และเชื่อมั่น

ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้ ทำให้นายกรัฐมนตรีเบื่อการเมืองหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถึงจะเบื่อแต่ก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพราะต้องนึกถึงประชาชนเป็นหลัก และประเทศต้องเดินไปข้างหน้า การปฏิรูปด้านต่างๆ บางเรื่องอาจจะเร็วบ้าง บางเรื่องอาจจะช้าบ้าง ก็ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน

พร้อมระบุว่า ไม่ได้ทำให้เสียสมาธิในการทำงาน เพราะถ้าจะเสียสมาธิ ก็คงเสียมานานแล้ว เพราะอยู่มา 6-7 ปีแล้ว ส่วนจะได้ไปต่อในสมัยหน้าหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับสภาฯ อย่างไรก็ดี ยังมั่นใจที่จะเดินหน้าทำงานต่อ ถ้าตราบใดที่ประชาชนยังต้องการ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.ย. 64)

Tags: , , , , ,
Back to Top