TOPICSTODAY: ครม.ประชุมแบบเต็มคณะ/ชุดตรวจ ATK ถึงไทยล็อตแรก/สรท.แถลงสถานการณ์การส่งออก

ภารกิจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล โดยเป็นการประชุมเต็มคณะครั้งแรกในรอบ 5 เดือน หลังจากที่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ใช้วิธีประชุมผ่านระบบ Video Conference มาโดยตลอด

จากนั้นช่วงบ่ายคณะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล

– ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานข้อมูลเบื้องต้นวันนี้ มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น 13,821 ราย ส่วนผู้เสียชีวิต 241 ราย โดยกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะแถลงสถานการณ์และประเด็นสำคัญเพิ่มเติม

– ติดตามความคืบหน้า กรณีบัญชีข้อมูลผู้ป่วย 16 ล้านคน ของกระทรวงสาธารณสุข ถูกแฮคข้อมูลไปลงประกาศขายในเพจ RAID Forums ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. 64 ซึ่งเรื่องนี้นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนแล้ว

– ภายหลังจากที่องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ได้ลงนามจัดซื้อชุดตรวจหาเชื้อโควิดด้วยตัวเอง (ATK) จากประเทศจีน ยี่ห้อ Lepu จำนวน 8.5 ล้านชุด ที่นำเข้าโดยบริษัท ออสท์แลนด์ แคปปิตอล จำกัด ไปแล้วเมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา วันนี้จะมีการนำเข้า ATK ดังกล่าวในล็อตแรกจำนวน 3 ล้านชุด เพื่อนำไปกระจายให้กับผู้ที่สั่งจองซื้อไว้ล่วงหน้า (พรีออเดอร์) รวมถึงให้ อภ.นำไปแจกจ่ายให้ประชาชนต่อไป

– สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สภาผู้ส่งออก) หรือ สรท. แถลงข่าวสถานการณ์การส่งออกเดือนกรกฎาคม

– ติดตามผลการหารือระหว่างสมาคมสายการบินประเทศไทย ที่มีกำหนดจะเข้าหารือกับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลังในวันนี้ เพื่อหารือถึงแนวทางความช่วยเหลือธุรกิจสายการบิน

– สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และ CFA Institute อบรม Online Webinar หัวข้อ Overview on “ESG Integration Framework” for investment analysis รับฟังการบรรยายความเชื่อมโยงเรื่อง ESG ในมุมของการลงทุนในตลาดทุน แนวโน้มและผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม รวมถึงตัวอย่างกรณีศึกษาเกี่ยวกับการผนวกเรื่อง ESG เข้าไปในการวิเคราะห์และการตัดสินใจลงทุน

– ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จัดกิจกรรม Opportunity Day ประจำไตรมาส 2/2564 ประกอบด้วย บล. บียอนด์ (BYD), บมจ.โลหะกิจ เม็ททอล (LHK), บมจ. เอ็น.ดี.รับเบอร์ (NDR), บมจ. โปรเอ็น คอร์ป (PROEN), บมจ. บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS), บมจ. เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) และ บมจ. ยูเนี่ยน ปิโตรเคมิคอล (UKEM)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.ย. 64)

Tags: , , , , , ,
Back to Top