ASIAN-TU ดีดขึ้นรับบาทอ่อน,โบรกฯ มองผลงานโตโดดเด่นต่อเนื่อง

หุ้น ASIAN ปรับขึ้น 4.60% หรือเพิ่มขึ้น 0.80 บาท มาที่ 18.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 186.23 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.14 น. ราคาเปิด 17.70 บาท ราคาขึ้นไปสูงสุด 18.20 บาท ราคาต่ำสุด 17.70 บาท

ส่วน TU ปรับขึ้น 1.99% หรือเพิ่มขึ้น 0.40 บาท มาที่ 2.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 300.67 ล้านบาท มีราคาเปิด 20.50 บาท ราคาสูงสุด 20.70 บาท ราคาต่ำสุด 20.40 บาท

บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บมจ.เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น (ASIAN) ขยายกำลังการผลิตของธุรกิจ Pre-fried กว่า 2 พันตัน/ปี (+26%) ด้านอาหารสัตว์เลี้ยง Demand ดี จ่อเพิ่ม Line การผลิต 1 Line ในปี 64 และ 3 Line ในปี 65 ประกอบกับเงินบาทกลับมามีแนวโน้มอ่อนค่า หนุนกลุ่มส่งออก, ธุรกิจอาหารยังเติบโตได้ต่อ Demand ทั่วโลกค่อยๆ ฟื้นตัว ทั้งนี้ KTBST ประเมินกำไรปี 64-65 ที่ 1 พัน ลบ. และ 1.1 พัน ลบ. +34%YoY, +3.4%YoY ตามลำดั[

ขณะที่ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า มอง บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) เป็น Innovative Company ไม่ใช่เพียง Tuna Company อีกต่อไป ภายหลังเห็นทิศทางและกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการมุ่งสู่ Innovative Product สำหรับคนและสัตว์เลี้ยง จนเริ่มเห็นสัดส่วนรายได้กลุ่มนี้ทยอยสูงขึ้น ช่วยให้บริษัทลดการพึ่งพิงรายได้จากทูน่า คาดกำไรปี 64-65 เพิ่มขึ้น +19% Y-Y และ +3% Y-Y ตามลำดับ

โดยจะมีการปลดล็อคมูลค่าแฝงของบริษัทลูกการ Spin-Off ธุรกิจอาหารสัตว์เศรษฐกิจในไตรมาส 4/64 และอาหารสัตว์เลี้ยงในไตรมาส 3/65 นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกจากการลงทุนภายใต้แนวคิด ESG ซึ่ง TU เป็นบริษัทแรกในกลุ่มอาหารที่ได้เตรียมความพร้อมมานานกว่า 8 ปี และเริ่มเห็นผลบวกที่เป็นรูปธรรมแล้ว แนะนำ”ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 30 บาท

ส่วนบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ก็ระบุว่า TU ทำกำไรดีต่อเนื่อง แนวโน้มธุรกิจสำหรับในงวดครึ่งหลังปีนี้ยังมีความมั่นคงสูง แรงสนับสนุนมาจากธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งและธุรกิจ Red Lobster บริษัทมีการลงทุนธุรกิจอาหารด้านนวัตกรรมใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง ช่วยเสริมและต่อเติมภาพการเติบโตในระยะยาวได้เป็นอย่างดี สำหรับราคาพื้นฐานเป็น 24.70 บาท ซึ่งประเมินด้วย P/E ปี 65 ที่ระดับ 14 เท่า

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.ย. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top