รฟท.เซ็นมอบทรัพย์สินให้ เอสอาร์ทีฯ บริหารจัดการวางเป้าโอน 3.16 พันลบ.ในปี 65

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และ น.ส.ไตรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล กรรมการบริษัท และรักษาการกรรมการผู้จัดการบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ได้ทำพิธีลงนามร่วมกันในบันทึกข้อตกลงระหว่างกัน เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการส่งมอบทรัพย์สินของ รฟท.ให้กับบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด เป็นผู้ดูแลบริหารจัดการแทน อย่างไรก็ดี กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินทั้งหมดนั้นยังคงเป็นของ รฟท.เช่นเดิม

“ในช่วงแรกการรถไฟฯ จะเริ่มทยอยโอนทรัพย์สินโครงการขนาดใหญ่ที่มีการทำสัญญาไว้แล้ว จำนวน 75 สัญญา มูลค่าทรัพย์สิน 1,645 ล้านบาท โดยใช้เวลาโอนเสร็จสิ้นภายในเวลา 2 เดือน ระหว่างเดือน ก.ย.-ต.ค.64 ซึ่งจะทำให้ เอสอาร์ที แอสเสท สามารถดำเนินการบริหารจัดการทรัพย์สินได้ทันที และหลังจากนั้นจะมีการทยอยโอนส่งมอบทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายดำเนินการโอนทรัพย์สินทั้งหมด 12,839 สัญญา มูลค่า 3,166 ล้านบาท แล้วเสร็จภายในปี 65”

นายนิรุฒ กล่าวว่าต่อว่า เอสอาร์ที แอสเสท จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยบริหารจัดการและสร้างรายได้ให้กับ รฟท.ทั้งด้านการบริหารสัญญาเช่า การจัดหาผู้ลงทุนและการเช่าพื้นที่เพื่อพัฒนาโครงการบนที่ดินของ รฟท. รวมทั้งการพัฒนาด้วยตนเอง การซื้อหรือเช่าที่ดินจากบุคคลภายนอกเพื่อพัฒนาหรือร่วมทุน หวังสร้างการเติบโตในระยะยาวให้แก่ รฟท. ซึ่งจะส่งผลให้ รฟท.มีรายได้จากการบริหารทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น มีระบบบริหารจัดการที่มีมาตรฐานสากล และมีทางเลือกในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนอื่นๆ ตลอดจนยังส่งผลดีต่อภาพรวมในอีกหลายมิติ ทั้งมิติทางเศรษฐกิจในการช่วยกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ การจ้างงานการท่องเที่ยว ด้านสังคมช่วยให้การบริหารพื้นที่ชุมชนที่บุกรุกสามารถดำเนินการให้มีประสิทธิภาพ ตลอดจนช่วยให้การบริหารจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมดีขึ้น

“ท้ายนี้การรถไฟฯ คาดหวังว่าภายหลังการส่งมอบการบริหารทรัพย์สินแล้ว บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ซึ่งถูกออกแบบมาให้เป็นอิสระและเป็นมืออาชีพด้านการจัดการอสังหาริมทรัพย์จะสามารถบริหารจัดการทรัพย์สินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อการรถไฟแห่งประเทศไทย สามารถสร้างรายได้แก่องค์กร และเป็นฟันเฟืองสำคัญในการช่วยพลิกฟื้นการรถไฟฯ ให้กลับมาเป็นองค์กรที่มีความเข้มแข็ง สามารถดูแลและให้บริการแก่พี่น้องประชาชนตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนยุทธศาสตร์กระทรวงคมนาคมได้อย่างยั่งยืน”

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ก.ย. 64)

Tags: , ,
Back to Top