ผถห.รายย่อย STEC-STPI เดินหน้าร้องเอาผิดผู้บริหาร-บอร์ดล้มมติซื้อบ.ในเครือ

กลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อย บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) และ บมจ.เอสทีพี แอนด์ ไอ (STPI) เตรียมเข้าจึงจะเข้ายื่นหนังสือถึงผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) อีกรอบ เพื่อให้ตรวจสอบและเอาผิดผู้บริหารและคณะกรรมการบริษัทว่ากระทำการโดยทุจริตและฝ่าฝืนมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นหรือไม่ กรณีที่ที่ประชุมคณะกรรมการ STEC ยกเลิกมติเข้าซื้อกิจการของ บจก.เอส ที ไอ ที (STPI) ซึ่งเป็นบริษัทเครือ เนื่องจากพบว่ามีพิรุธที่ไม่สมเหตุสมผล

นางน้ำทิพย์ วิชชุเกรียงไกร ในฐานะตัวแทนกลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อยของ STEC และนายภานุพงศ์ คุโณปการพันธ์ ในฐานะตัวแทนกลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อยของ STPI ระบุว่าจะร่วมกันเข้ายื่นหนังสือดังกล่าว เพราะรู้สึกผิดหวังกับมติของคณะกรรมการ STEC เพราะมองว่าไม่ได้เป็นารรักษาผลประโยชน์ของบริษัทและผู้ถือหุ้นรายย่อย

  1. การที่ STEC อ้างเหตุผลที่ยกเลิกรายการดังกล่าวว่าเพราะสถานการณ์โควิดผลกระทบต่อการลงทุนนั้น ไม่สมเหตุผล เนื่องจากในการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 30 เม.ย.64 ซึ่งเป็นช่วงระหว่างการแพร่ระบาดของเชื้อไวนรัสโควิดระลอกใหม่ นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ STEC ตอบคำถามผู้ถือหุ้นว่า STEC พิจารณาความคุ้มค่าของการซื้อกิจการเป็นหลัก ไม่ใช่กำไรหรือขาดทุน และที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นในวันดังกล่าวลงมติอนุมัติด้วยคะแนนเสียง 93.36%
  2. การที่ให้เหตุผลว่าเดิมที่ปรึกษาการเงินอิสระ คือ บริษัท คันทรีกรุ๊ปแอดไวซอรี เคยทำผลการศึกษาว่าการซื้อกิจการ STIT มีผลดีหลายประการและให้ผลตอบแทนการลงทุน (Equity IRR) สูงถึง16.53% แต่ต่อมา STEC เปลี่ยนไปจ้าง บริษัท ซี.เจ.มอร์แกน มาศึกษาเรื่องนี้ใหม่อ้างว่าผลกระทบจากโควิด-19 ระบาด ทำให้ IRR ลดลงเหลือ0.16% จึงไม่คุ้มค่าในการซื้อนั้น เป็นเรื่องที่น่าสงสัยเพราะ นายชำนิ จันทร์ฉาย ประธานกรรมการตรวจสอบ STEC และเป็นกรรมการ STPI เคยเป็นเจ้าของและประธานบริษัท ซี.เจ.มอร์แกน อาจเข้าข่ายขัดผลประโยชน์ระหว่างกัน (Conflict of interest) หรือไม่
  3. การที่คณะกรรมการ STEC อ้างว่าการยกเลิกซื้อกิจการดังกล่าวไม่มีผลกระทบทางด้านการเงิน การดำเนินงาน ด้านกฎหมายนั้น STEC เป็นบริษัทมหาชน มีผู้ถือหุ้นมากกว่า 22,700 ราย และเกี่ยวเนื่องกับ STPI อีก11,400 ราย รวมมากกว่า 35,000 รายที่ได้รับความเสียหายจากการเชื่อข้อมูลข่าวสารที่คณะกรรมการ STEC เคยแจ้งว่าการซื้อกิจการ STIT เป็นผลบวก ทำให้เข้าซื้อหุ้น STEC และ STPI

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.ย. 64)

Tags: , , , , ,
Back to Top