รัฐวิกตอเรียพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุดในปีนี้ ขณะซิดนีย์ผ่อนคลายข้อกำหนดโควิด

รัฐวิกตอเรียของออสเตรเลียพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในปีนี้ ขณะที่มีการผ่อนคลายมาตรการในบางเขตแม้ยังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มต่อเนื่อง

ทางการออสเตรเลียกำหนดว่า การล็อกดาวน์ในรัฐวิกตอเรียจะสิ้นสุดลงก็ต่อเมื่อผู้ใหญ่ 70% ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้ว โดยคาดว่าจะเกิดขึ้นประมาณวันที่ 26 ต.ค. และทางการออสเตรเลียตั้งเป้าจะทำให้ได้ 80% ก่อนถึงวันแข่งม้าเมลเบิร์น คัพ ในวันที่ 2 พ.ย.

ทั้งนี้ รัฐวิกตอเรียพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 567 รายในวันนี้ เพิ่มจาก 507 รายเมื่อวันอาทิตย์ และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เกินกว่า 500 รายเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน

รายงานระบุว่า เกือบครึ่งหนึ่งของชาวออสเตรเลีย 25 ล้านคนอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์หลังการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาในเมืองซิดนีย์และเมลเบิร์น ทำให้รัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐวิกตอเรียต้องยกเลิกเป้าหมายโควิด-19 เป็นศูนย์ และเปลี่ยนเป็นเร่งฉีดวัคซีนเพื่อผ่อนคลายข้อกำหนด

ออสเตรเลียมีรายงานผู้ติดเชื้อรวม 86,000 ราย และเสียชีวิตรวม 1,163 ราย ในจำนวนนี้มีประมาณ 55,000 รายที่ติดเชื้อตั้งแต่กลางเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นช่วงที่พบโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาครั้งแรกในเมืองซิดนีย์

เมื่อการฉีดวัคซีนรวดเร็วขึ้น ก็ได้มีการผ่อนคลายมาตรการการรวมตัวบางส่วนลงในวันนี้ใน 12 ชานเมืองทางตะวันตกของซิดนีย์ โดยยกเลิกการกำหนดเวลาออกกำลังกายกลางแจ้ง และผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้วสามารถรวมตัวกันกลางแจ้งได้ 5 คน

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.ย. 64)

Tags: , , , , , , , ,
Back to Top