ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 8,452 ราย ATK 2,653 ตาย 57 ราย

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,452 ราย ประกอบด้วย

  • ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 7,654 ราย
  • จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 631 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 160 ราย
  • ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 7 ราย
  • ส่วนผู้ติดเชื้อเข้าข่ายด้วยการตรวจ ATK 2,653 ราย
  • เสียชีวิต 57 ราย เป็นชาย 28 ราย หญิง 29 ราย อายุเฉลี่ย 69.5 ปี (30-98 ปี) เป็นผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 46 ราย คิดเป็น 81% ผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 60 ปีมีโรคเรื้อรัง 8 ราย คิดเป็น 14% และไม่มีโรคเรื้อรัง 3 ราย คิดเป็น 5%

สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 1,875,315 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 8,449 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 18,922 ราย

สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 1,875,315 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 8,449 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 18,922 ราย

จังหวัดที่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 859 ราย, สงขลา 551 ราย, ปัตตานี 532 ราย, ยะลา 475 ราย, จันทบุรี 358 ราย, นครศรีธรรมราช 345 ราย, นราธิวาส 331 ราย, สมุทรปราการ 306 ราย, ชลบุรี 297 ราย และ เชียงใหม่ 270 ราย

พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผอ.สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค กล่าวถึงการพบผู้ติดเชื้อในคลัสเตอร์ต่างๆ ว่า ยังพบมากในแคมป์งานก่อสร้างถึง 132 คลัสเตอร์ และแรงงานอีก 6 คลัสเตอร์ ที่จันทบุรี และในงานศพ 5 คลัสเตอร์ ที่จ.นครศรีธรรมราช

สำหรับสถานการณ์ติดเชื้อใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ในขณะนี้ เริ่มทรงตัวและค่อยๆลดลง ทางกระทรวงสาธารณสุขมีการติดตามสถานการณ์ทุกวัน ซึ่งที่ประชุม EOC สาธารณสุขได้มีการเร่งรัดให้ฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมมากขึ้น ทั้งประชาชนทั่วไป กลุ่มเสี่ยง 608 กลุ่มนักเรียน นักศึกษา และแรงงานในพื้นที่ และประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจเรื่องวัคซีนเป็นภาษาพื้นถิ่น ผ่านช่องทางต่างๆ และได้รับความช่วยเหลือจากผู้นำชุมชนและผู้นำศาสนา

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เน้นย้ำ เรื่องการสกัดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง เนื่องจากพบการระบาดในครอบครัวและชุมชนเป็นหลัก รวมถึงร้านอาหาร ร้านน้ำชา โดยมีทีมงาน CCRT 382 ทีม ลงไปสอบสวนโรค ซึ่งนำต้นแบบของการดูแลการติดเชื้อจากการแพร่ระบาดในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ส่วนสถานการณ์ผู้เสียชีวิต ใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี และมีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคและกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ และกว่า 90%ของผู้เสียชีวิตยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ซึ่งเป้าหมายหลักคือ การเร่งระดมฉีดวัคซีนในกลุ่มดังกล่าวให้ได้มากที่สุด

ส่วนความคืบหน้าการฉีดวัคซีนในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว ขณะนี้มีหลายพื้นที่ผ่านเกณฑ์การฉีดวัคซีนเกิน 50% แล้ว และมีจังหวัดที่เข้าใกล้เป้าหมาย 50% แล้วเช่น เลย หนองคาย อุดรธานี

ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 245,275,490 ราย เสียชีวิต 4,978,726 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 46,497,719 ราย อันดับ 2 อินเดีย 34,214,865 ราย อันดับ 3 บราซิล 21,748,984 ราย อันดับ 4 สหราชอาณาจักร 8,853,227 ราย และอันดับ 5 รัสเซีย 8,316,019 ราย ส่วนประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ในอันดับที่ 24

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ต.ค. 64)

Tags: , , ,
Back to Top