พาณิชย์ เผยโควิดดันยอดจดทะเบียนธุรกิจผลิตและแปรรูปสมุนไพร 9 เดือนพุ่งเกือบ 70%

นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า จากบทวิเคราะห์ธุรกิจประจำเดือนกันยายน 2564 พบว่า ธุรกิจผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร มีอัตราการเติบโตของธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดใน 9 เดือนตั้งแต่มกราคม-กันยายน 2564 มีนิติบุคคลจัดตั้งใหม่จำนวน 117 ราย เพิ่มขึ้น 48 ราย เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 ที่มีจำนวน 69 ราย คิดเป็น 69.56% และในปี 2564 (9 เดือนแรก) มีทุนจดทะเบียน จำนวน 305.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2563 จำนวน 109.74 ล้านบาท คิดเป็น 56.04%

ประเทศไทยมีนิติบุคคลที่จดทะเบียนเป็นธุรกิจผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร จำนวน 1,014 ราย มีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 6,669.97 ล้านบาท โดยนิติบุคคลส่วนใหญ่จัดตั้งในรูปแบบบริษัทจำกัดจำนวน 886 ราย คิดเป็น 87.37% แบ่งมูลค่าทุนเป็น 4 ระดับ ได้แก่ ทุนจดทะเบียนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 667 ราย ทุนจดทะเบียน 1.01-5.00 ล้านบาท จำนวน 262 ราย ทุนจดทะเบียน 5.01-100 ล้านบาท จำนวน 75 ราย และมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 10 ราย จากจำนวนนี้คิดเป็นธุรกิจขนาดเล็ก (S) มากที่สุด จำนวน 983 ราย คิดเป็น 96.94% ธุรกิจขนาดกลาง (M) จำนวน 22 รายคิดเป็น 2.17% และธุรกิจขนาดใหญ่ (L) จำนวน 9 ราย คิดเป็น 0.89% ทั้งนี้ ธุรกิจส่วนใหญ่จัดตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานครจำนวน 430 ราย คิดเป็น 42.41% ทุนจดทะเบียนรวม 2,529.52 ล้านบาท”

ปัจจัยหลักที่สนับสนุนให้ธุรกิจฯ เติบโตอย่างมีนัยสำคัญมาจากการตื่นตัวของผู้บริโภคที่นำสมุนไพรมาใช้เพื่อดูแลตนเองและบรรเทาอาการเจ็บป่วยในเบื้องต้นและเกี่ยวเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้การนำสมุนไพรไทยที่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านซึ่งผ่านการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพได้ถูกนำมาใช้ร่วมในการรักษาสุขภาพและกลายเป็นธุรกิจใหม่ที่มาแรงในขณะนี้ โดยพบว่าการลงทุนในธุรกิจฯ มาจากนักลงทุนสัญชาติไทยมากถึง 93.06% มูลค่า 6,205.30 ล้านบาท อีกทั้งจากการเพิ่มขึ้นของประชากรสูงวัยในประเทศไทยยังส่งผลให้การรักษาด้วยยาสมุนไพรเป็นทางเลือกสำคัญและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นตามมาอีกด้วย

นอกจากนี้ รัฐบาลให้การสนับสนุนโดยเน้นการพัฒนาสมุนไพรไทยตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ไปจนถึงการส่งออกวัตถุดิบสมุนไพรและตั้งเป้าเป็นตลาดชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน ในปี 2564 มีมูลค่าการส่งออกเครื่องเทศและสมุนไพรไทย (มกราคม-สิงหาคม) จำนวน 6,288.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2563 ที่มีจำนวน 3,453.65 คิดเป็น 82.08%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 พ.ย. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top