สธ.เร่งฉีดวัคซีนโควิดอีก 12.4 ล้านโดส ดันให้ครบ 100 ล้านโดสใน พ.ย.นี้

นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า สธ. ตั้งเป้าฉีดวัคซีนโควิด-19 จำนวน 100 ล้านโดสภายในสิ้นเดือน พ.ย. 64 ซึ่งขาดอีก 12.4 ล้านโดส

โดยมีมาตรการเร่งรัดในการฉีดวัคซีนโควิด-19 คือ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และกทม. จะระดมสรรพกำลังหน่วยงานต่างๆ สำรวจตรวจสอบว่ามีประชาชนจุดใดบ้างที่ยังไม่ฉีดวัคซีน และจะอำนวยความสะดวกให้ได้ฉีดอย่างทั่วถึง ด้วยหน่วยงานฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เคาะตามประตูบ้าน

ในขณะที่หน่วยบริการ และโรงพยาบาล จะจัดฉีดวัคซีนแบบ walk in และเปิดรับนัดหมายฉีดวัคซีน พร้อมให้ข้อมูลที่ถูกต้องเรื่องวัคซีน เพื่อสร้างความไม่มั่นใจ หลังพบประชาชนบางส่วนได้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องผ่านโซเชียลมีเดีย หรือได้รับการบอกกล่าวที่คลาดเคลื่อน

“ยังยืนยันว่า วัคซีนมีความปลอดภัยสูง และมีการเฝ้าระวังผ่านระบบ AEFI โดยจากการพิจารณาของคณะผู้เชี่ยวชาญ พบว่าผู้เสียชีวิตหลังจากฉีดวัคซีนเกือบทั้งหมดไม่ได้เกิดจากวัคซีน โดยพบสาเหตุการเสียชีวิตจากวัคซีนเพียง 4 ราย” 

นพ.เฉวตสรร กล่าว

นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่การระบาดวันที่ 1 เม.ย. – 12 พ.ย. 64 พบสตรีมีครรภ์ติดเชื้อโควิดจำนวน 5,516 ราย เสียชีวิต 102 ราย มีทารกติดเชื้อ 238 ราย และมีทารกเสียชีวิต 51 ราย โดยในกลุ่มผู้ติดเชื้อยังไม่ได้รับวัคซีน 4,051 ราย และได้รับวัคซีนแล้ว 375 ราย ซึ่งผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วจำนวน 133 ราย เมื่อติดเชื้อไม่พบอาการหนัก และไม่พบผู้เสียชีวิต

สำหรับสถานการณ์การฉีดวัคซีนของสตรีมีครรภ์ ได้รับวัคซีนเข็มแล้ว 1 จำนวน 86,602 ราย คิดเป็น 30.8% เข็ม 2 จำนวน 66,784 ราย และเข็ม 3 จำนวน 1,009 ราย ทั้งนี้ สธ. ได้ตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้สตรีมีครรภ์จำนวน 281,500 ราย ซึ่งขณะนี้ต้องให้สตรีมีครรภ์มาฉีดวัคซีนอีก 69.2% เพื่อลดอัตราการป่วยหนัก และเสียชีวิต

ทั้งนี้ จากการฉีดวัคซีนเข็ม 1 แล้วจำนวน 86,602 ราย พบอาการแท้ง 5 ราย คิดเป็น 0.5% และพบทารกเสียชีวิตในครรภ์ 5 ราย คิดเป็น 0.5% ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่ต่ำเมื่อเทียบกับอุบัติการณ์ตามธรรมชาติ ที่สามารถพบอุบัติการณ์การแท้งอยู่ที่ 10 – 15%

ส่วนการดำเนินการหลังจากนี้ สธ. จะเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 เชิงรุกแก่สตรีมีครรภ์ กรณีที่ยังไม่สมัครใจฉีด จะขอให้ฉีดบุคคลในครอบครัวให้ครบก่อน ในขณะเดียวกันจะจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ให้ครอบคลุมสตรีมีครรภ์ 70% ของการตั้งครรภ์ทั้งหมดในพื้นที่ โดยจัดให้มีการจัดบริการแบบ ONE STOP SERVICE ในคลินิกฝากครรภ์ในรายที่ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน และเมื่อมาคลอดจะให้ฉีดวัคซีนก่อนกลับบ้าน ในขณะเดียวกันจะสนับสนุนสื่อ เพื่อส่งเสริมการสื่อสาร รณรงค์การฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่สตรีมีครรภ์ โดยเน้นประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับประโยชน์ และอาการไม่พึงประสงค์แก่สตรีมีครรภ์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 พ.ย. 64)

Tags: , , , , ,
Back to Top