ดาวโจนส์ปิดลบ 268.97 จุด แต่ Nasdaq บวกทะลุ 16,000 จุดเป็นครั้งแรก

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (19 พ.ย.) โดยลดลงเป็นวันที่ 4 ในรอบ 5 วันทำการที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ในยุโรป และการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ซึ่งจะกระทบเศรษฐกิจโลก

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,601.98 จุด ลดลง 268.97 จุด หรือ -0.75%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,697.96 จุด ลดลง 6.58 จุด หรือ -0.14%
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,057.44 จุด เพิ่มขึ้น 63.73 จุด หรือ +0.40%

ดัชนี Nasdaq ปิดบวกเหนือระดับ 16,000 จุดได้เป็นครั้งแรก และปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้น

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 1.4% โดยติดลบเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน และร่วงลง 2.3% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ส่วนดัชนี Nasdaq และดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น 1.2% และ 0.3% ตามลำดับ

หุ้นกลุ่มธนาคาร, พลังงาน และสายการบิน ร่วงลงในวันศุกร์ จากความวิตกที่ว่า หลายประเทศในยุโรปซึ่งเผชิญกับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น อาจดำเนินการตามประเทศออสเตรียในการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ

หุ้นกลุ่มธนาคาร ร่วงลง 1.6% ตามการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร หลังจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อพันธบัตรซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย

ดัชนี S&P หุ้นกลุ่มพลังงาน ร่วงลงหนักที่สุด 3.9% เนื่องจากราคาน้ำมันดิบดิ่งลงจากแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันที่ลดลง

หุ้นกลุ่มเดินทางและสันทนาการปรับตัวลงด้วย โดยหุ้นเดลตา แอร์ไลน์ส, ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส, อเมริกัน แอร์ไลน์ส, นอร์วีเจียน ครุยส์ ไลน์ และคาร์นิวาล ลดลงราว 0.6-2.8%

แต่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลง โดยหุ้นเฟซบุ๊ก บวก 1.95%, หุ้นแอปเปิล เพิ่มขึ้น 1.7% และหุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 1.54%

หุ้นอินวิเดีย คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิป พุ่งขึ้น 4.1% โดยปิดบวกสูงสุดเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ขณะที่ดัชนีหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ที่ตลาดฟิลาเดลเฟีย เพิ่มขึ้น 0.3% แตะระดับปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 4 วันทำการ

บรรดานักลงทุนยังจับตาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน อาจเสนอชื่อประธานเฟดคนต่อไปในช่วงสุดสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด และนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด ถือเป็น 2 ตัวเก็งที่อาจได้รับการเสนอชื่อให้เป็นประธานเฟดคนใหม่ โดยนายพาวเวลจะครบวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปีในเดือนก.พ. 2565

มีการคาดการณ์กันว่า หากปธน.ไบเดนเสนอชื่อนายพาวเวลให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดเป็นสมัยที่ 2 เขาก็อาจเสนอชื่อนางเบรนาร์ดให้ดำรงตำแหน่งรองประธานเฟดฝ่ายกำกับดูแล ซึ่งจะมีหน้าที่รับผิดชอบด้านการกำหนดกฎระเบียบควบคุมตลาดหุ้นสหรัฐ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ย. 64)

Tags: , ,
Back to Top