BAFS คาดปริมาณเติมน้ำมันปี 64 ลดลง 25% ก่อนฟื้นโต 125% ในปี 65

ม.ล.ณัฐสิทธิ์ ดิสกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) คาดว่าในปี 64 ปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานในปี 64 จะอยู่ที่ 1,772 ล้านลิตร ลดลง 25%จากปีก่อน โดยในงวด 9 เดือนปี 64 ปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานลดลง 39% มีจำนวน 1,148 ล้านลิตร ตามจำนวนเที่ยวบินลดลง 44% ในสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง

อย่างไรก็ดี บริษัทเริ่มเห็นทิศทางการบินดีขึ้น จากที่มีการกระจายฉีดวัคซีนได้มากขึ้น โดยวันนี้ (3 ธ.ค.64) มีจำนวนผู้ฉีดวัคซีน 2 เข็มแล้ว 3.3 พันล้านคน หรือคิดเป็น 42.7% ของประชากรทั่วโลก ส่วนในไทยมีผู้ฉีดวัคซีน 2 เข็มแล้ว 41.5 ล้านคน นอกจากนี้ตลาดการบินในต่างประเทศเริ่มฟื้นตัว เริ่มเห็นการขาดแคลนนักบินและเครื่องบิน ซึ่งบริษัทเชื่อว่าไทยก็จะถึงจุดนั้นในปีหน้า แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทยังระมัดระวังและควบคุมการใช้จ่าย ซึ่งได้ปรับลดเงินเดือนผู้บริหาร 50% , 20% และ 10%

ส่วนในปี 65 คาดว่าปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานอยู่ที่ 3,994 ล้านลิตร เติบโต 125% จากปี 64 ขณะที่การบริการน้ำมันภาคพื้น ปี 65 คาดว่าจะขยายตัว 11% อยู่ที่ 4,200 ล้านลิตร

ม.ล.ณัฐสิทธิ์ กล่าวถึงการระบาดไวรัสสายพันธุใหม่โอไมครอนว่า ยังติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับสายพันธุ์โอไมครอน และถ้าภาครัฐมั่นใจรับมือได้ และแม้การแพร่ระบาดได้เร็วแต่อาการไม่หนัก ซึ่งประเด็นนี้กลุ่ม BAFS ยังมีมุมมองเป็นบวก และเชื่อว่าช่วงสิ้นปีการเดินทางต่างประเทศก็ยังมีต่อเนื่อง

สำหรับประเด็นรถยนต์ไฟฟ้า(EV) เชื่อว่าจะยังไม่มีผลต่อธุรกิจ โดยเห็นว่าระยะแรกจะมีการใช้ในเมืองเป็นหลัก ส่วนในภาคขนส่ง และภาคเกษตรก็ยังใช้น้ำมันดีเซลเป็นหลัก ดูแล้วการใช้รถ EV เป็นรถส่วนบุคคลซึ่งยังน้อยไม่มีนัยสำคัญ และยังมีเวลาปรับเปลี่ยน

ม.ล.ณัฐสิทธิ์ กล่าวว่า บริษัทได้ตั้งงบลงทุนในแผนระยะยาว 5 ปีไว้ 1.4 หมื่นล้านบาท แต่ปี 65 อาจจะต้องใช้เงินลงทุนอย่างระมัดระวัง โดยที่บริษัทจะไม่ลงทุนในธุรกิจที่ไม่จำเป็น ทั้งนี้บริษัทจะลงทุนในธุรกิจใหม่ที่เป็นกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค (Utilities & Power) และกลุ่มบริการ (Business Services) เพื่อผลักดันให้มีรายได้ส่วนนี้เพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้ 50% ในช่วง 5 ปี ขณะที่รายได้จากธุรกิจปัจจุบันจะปรับลงเหลือ 50%

“อยากให้มองแผนบริษัทในระยะยาวในช่วง 5 ปี สิ่งที่นโยบายของเราต้องการให้กลุ่ม BAFS มีความมั่นคงทางโครงสร้างรายได้ คือรายได้หลักที่เกี่ยวกับการบิน จะมีสัดส่วน 50% ส่วนอีก 50% จะมาจากธุรกิจที่เกี่ยวกับสาธารณูปโภค และพลังงาน และกลุ่มธุรกิจที่ดูด้านบริการธุรกิจ เพราะฉะนั้นในปีหน้าก็มีแผนที่จะลงทุนต่อเนื่อง ทั้ง FPT ,BAFS Clean Energy ที่เป็นเรื่องพลังงานหมุนเวียน ซึ่งตอนนี้มีการพิจารณาอยู่แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่ในทิศทางก็จะมีการลงทุนต่อเนื่อง”ม.ล.ณัฐสิทธิ์ กล่าว

อนึ่ง รายได้ในงวด 9 เดือนปี 64 โดยรายได้หลักมาจากธุรกิจเติมน้ำมันอากาศยาน สัดส่วน 51% รายได้จากการเติมน้ำมันผ่านท่อ (FPT) สัดส่วน 32% และ 17% มาจากรายได้จากการขายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ธ.ค. 64)

Tags: , ,
Back to Top