ปศุสัตว์ ขอผู้เลี้ยงหมั่นสังเกตอาการสัตว์ใกล้ชิดหลังข่าวพบฮิปโปใน ตปท.ติดโควิด

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ตามที่มีการเสนอข่าวเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 64 ว่ามีการกักตัวฮิปโปโปเตมัสจำนวน 2 ตัวในสวนสัตว์เบลเยียม หลังพบติดเชื้อโควิด-19

โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งสอบสวนโรคเพิ่มเติม ถึงสาเหตุและที่มาของการติดเชื้อว่ามาจากที่ใด เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์ทั้งหมดไม่มีผู้ใดพบผลบวกจากการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และกรณีนี้เป็นรายงานการติดเชื้อในสัตว์สปีชีส์นี้เป็นครั้งแรก ซึ่งก่อนหน้ามีรายงานการติดเชื้อจำกัดเฉพาะในสัตว์ตระกูลลิงใหญ่ และตระกูลแมวเท่านั้น

สำหรับรายละเอียดของข่าว นายฟรานซิส แวร์คัมเมน สัตวแพทย์ประจำสวนสัตว์ แอนท์เวิร์บในเบลเยียม เผยว่า พบผลบวกจากการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในฮิปโปโปเตมัส 2 ตัว คือ อิมานิ อายุ 14 ปี และเฮอร์มีน อายุ 41 ปี จึงได้ทำการแยกฮิปโปโปเตมัสทั้ง 2 ตัวไว้เพื่อเป็นการป้องกัน โดยฮิปโปโปเตมัสทั้งสองตัวมีอาการน้ำมูกไหลออกมาปริมาณมาก

สำหรับโคโรน่าไวรัส หรือโควิด-19 เป็นเชื้อไวรัสตระกูลใหญ่ตระกูลหนึ่ง บางชนิดทำให้เกิดโรคคล้ายหวัดในคน บางชนิดทำให้เกิดการเจ็บป่วยในสัตว์ เช่น วัว ควาย อูฐ และค้างคาว นอกจากนี้บางชนิด เช่น โคโรนาไวรัสที่พบในสุนัขและแมว สามารถพบการแพร่ระบาดในสัตว์เท่านั้น และไม่แพร่ระบาดไปยังคน ซึ่ง ณ ตอนนี้ สัตว์เลี้ยง เช่น แมวและสุนัข แมวใหญ่ในสวนสัตว์หรือเขตรักษาพันธุ์ กอริลล่าในสวนสัตว์ มิงค์ในฟาร์ม และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ สามารถติดเชื้อ SARS-CoV-2 ได้ แต่ยังไม่มีข้อมูลทั้งหมดว่ามีสัตว์ชนิดอื่นที่สามารถติดเชื้อได้อีกหรือไม่

ขณะนี้มีรายงานสัตว์ที่ติดเชื้อไวรัสทั่วโลก สัตว์เหล่านี้ส่วนใหญ่ติดเชื้อหลังจากสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 นอกจากนี้เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 64 องค์การสุขภาพสัตว์โลก (OIE) มีการแถลงเกี่ยวกับการเฝ้าระวังกวางหางขาว สำหรับ SARS-CoV-2 กล่าวว่า การวิจัยทางวิทยาศาตร์เมื่อเร็วๆ นี้ แสดงให้เห็นถึงความชุกภายในประชากรกวางหางขาวในอเมริกาเหนือ และนี่เป็นครั้งแรกที่มีการตรวจพบไวรัสในระดับประชากรในสัตว์ป่า โดยกวางเหล่านี้ไม่แสดงอาการทางคลีนิคของการติดเชื้อ และการค้นพบดังกล่าว อาจทำให้สันนิษฐานได้ว่ากวางหางขาวนั้น มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นแหล่งรังโรคของ SARS-CoV-2 หรือไม่ จึงจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติ่มและประเมินถึงผลกระทบอื่นๆ ที่อาจตามมาได้

อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดที่แสดงถึงการแพร่กระจายของ SARS-CoV-2 แต่การแพร่กระจายเชื้อจากมนุษย์เข้าไปสู่ประชากรกวางหางขาวนั้นเกิดขึ้นหลายครั้ง ดังนั้น จึงควรมีการสร้างความตระหนักให้กับนักล่า และผู้ที่อาศัยหรือทำงานกับสัตว์ป่า เพื่อหลีกเลี่ยงปฏิสัมพันธ์ที่ไม่จำเป็นกับสัตว์ป่า และหลีกเลี่ยงการทิ้งขยะหรือวัตถุของมนุษย์ไว้ในพื้นที่ป่าที่สัตว์ป่าสามารถเข้าถึงได้

ทั้งนี้ แม้จะมีการแพร่กระจายของ SARS-CoV-2 ในประชากรกวางหางขาว แต่ไวรัสก็ไม่ปรากฏว่ามีการกลายพันธุ์อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งในช่วงเวลาที่ผ่านมาประเทศไทยให้ความร่วมมือกับ OIE ในการรายงานเหตุการณ์การติดเชื้อ SARS-CoV-2 ในประเทศ โดยประเทศไทยได้ทำการรายงานการติดเชื้อว่ามีการติดเชื้อในสุนัขและแมว โดยทุกเคสที่รายงานนั้นพบการติดเชื้อจากเจ้าของติดเชื้อโควิด-19 ทั้งสิ้น

นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีโครงการการเฝ้าระวังการติดเชื้อ SARS-CoV-2 ในสัตว์เลี้ยงที่มีอาการเสี่ยง เช่น มีการแสดงอาการทางระบบทางเดินหายใจ เป็นต้น หรือสัตว์เลี้ยงที่มาจากต่างประเทศพร้อมกับเจ้าของ โดยการตรวจวิเคราะห์เพื่อเฝ้าระวังดังกล่าว ทำการตรวจหาเชื้อโดยสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ ซึ่งปัจจุบันจากผลการตรวจวิเคราะห์ทุกตัวอย่างให้ผลเป็นลบ

เนื่องด้วยสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงเริ่มเข้าสู่อากาศหนาว สัตว์จึงอาจมีภูมิคุ้มกันลดลงได้ กรมปศุสัตว์ จึงขอความร่วมมือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ให้ดูแลสัตว์ของตนเองให้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง และป้องกันสัตว์ของตนเองไม่ให้สัมผัสกับปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่จะนำเชื้อโรคเข้าสถานที่เลี้ยงสัตว์ และหมั่นสังเกตอาการของสัตว์อย่างสม่ำเสมอ

หากพบสัตว์แสดงอาการน่าสงสัย ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ของสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด หรือสำนักงานปศุสัตว์อำเภอในพื้นที่ อาสาปศุสัตว์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์การบริหารงานส่วนตำบลในพื้นที่ หรือโทรแจ้งสายด่วนของกรมปศุสัตว์ที่เบอร์โทร 063-225-6888 หรือผ่านแอปพลิเคชัน DLD 4.0 “แจ้งการเกิดโรคระบาด” เพื่อให้การช่วยเหลือเกษตรกรสามารถป้องกัน และควบคุมโรคได้ทันที

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ธ.ค. 64)

Tags: , , , , , ,
Back to Top