รมว.คมนาคม ให้ปลัดฯ เจรจา ม.เกษตร กรณีสร้าง N1 ชี้สร้างอุโมงค์ทำค่าบริการแพงขึ้น

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาตินตรี เป็นประธานเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2564 เห็นชอบรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 (สายเหนือและสายใต้) เชื่อมต่อไปยังถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันออกแล้ว โดยให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) พิจารณาดำเนินการ ซึ่งมีงบประมาณจากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFF) จำนวน 14,382 ล้านบาท สำหรับดำเนินการก่อสร้างทางด่วนตอน N2 และ E-W Corridor จากแยกเกษตร-นวมินทร์ เชื่อมต่อไปยังถนนวงแหวนรอบนอกด้านตะวันออกระยะทาง 10.5 กม ซึ่งมีความพร้อมแล้ว

ส่วนตอน N1 ซึ่งยังติดปัญหาช่วงผ่านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์นั้นได้มอบให้นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ไปเจรจากับทางมหาวิทยาลัยฯ เพื่อร่วมกันพิจารณาข้อดี-ข้อเสีย รูปแบบการก่อสร้าง โดยกระทรวงคมนาคมจะรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย ส่วนเรื่องการปรับรูปแบบเป็นอุโมงค์ก็เป็นทางเลือกที่คิดไว้ แต่การทำเป็นอุโมงค์จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มประมาณ 20,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลต่อค่าผ่านทางที่แพงขึ้น ดังนั้นจะหารือกันก่อนว่าทางมหาลัยฯ มีความเห็นอย่างไร

“ทุกเรื่องมีทางออกอยู่แล้ว แต่ละเรื่องก็จะมีปัจจัยที่จะเข้าไปสู่ความสำเร็จแตกต่างกัน ซึ่งอุโมงค์ก็ใช้เงินมาก แต่ก็ต้องเก็บค่าใช้บริการแพง” นายศักดิ์สยาม กล่าว

รมว.คมนาคม กล่าวว่า การดำเนินโครงการอาจมีความเห็นหลากหลาย ก็มาหารือกัน ต้องบอกว่าทำแบบนี้ประโยชน์คืออะไร สิ่งที่ ม.เกษตรฯ กังวลเรื่องเสียง เรื่องฝุ่น เรามีวิธีแก้ไขอะไร ถ้าอธิบายแล้ว ม.เกษตรฯ เห็นด้วย ก็เดินหน้าเต็มที่ แต่ถ้าไม่เห็นด้วยก็ต้องทำเท่าที่เห็นด้วย เพราะสิ่งที่เป็นข้อจำกัดเรื่องนี้ คือ ภาระอัตราดอกเบี้ยของ TFF วันนี้ไม่ได้ทำอะไรเลย จ่ายอย่างเดียว ในแง่ของการบริหารถือว่าไม่โอเค โดยในส่วนของการหารือกับ ม.เกษตร จะดำเนินการคู่ขนานไปกับการนำเสนอ ตอน N2 เข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งนี้ คาดว่า N2 จะเสนอ ครม. และเปิดประมูลในปี 2565

อย่างไรก็ตามโครงการก่อสร้างทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือจะมีความสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อได้ดำเนินการทั้ง N1,N2 เพราะเป็นโครงข่ายเส้นทางที่สามารถเชื่อมต่อและถ่ายโอนปริมาณจราจรจากงามวงศ์วานไปยังวงแหวนตะวันออก ตนเชื่อว่าต้องมาคุยกันถึงข้อดีข้อเสีย ส่วนกรณีที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ไม่ได้ติงเรื่องนี้ เพียงแต่ต้องการดูผลตอบแทนการลงทุนและผลตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจ ขณะที่ตอน N2 ที่ต้องดำเนินการ เพราะว่าปัญหาการจราจรติดขัดค่อนข้างมาก

“ทุกเรื่องมีทางออกอยู่แล้ว แต่ละเรื่องก็จะมีปัจจัยที่จะเข้าไปสู่ความสำเร็จแตกต่างกัน ซึ่งอุโมงค์ก็ใช้เงินมาก แต่ก็ต้องเก็บค่าใช้บริการแพง” นายศักดิ์สยาม กล่าว

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ธ.ค. 64)

Tags: , ,
Back to Top