ศบค. เผยไทยพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนแล้ว 205 ราย ห่วงจัดงานปีใหม่

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอนขยายวงกว้างแบบก้าวกระโดดในสหรัฐฯ และยุโรป และเมื่อมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ก็ทำให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มตามไปด้วย โดยพบการระบาดใน 98 ประเทศ และในสหรัฐพบการระบาดครบทั้ง 50 รัฐแล้ว โดยมีการระบาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นเท่าตัว

“เราจับตาหลายประเทศที่มีการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนอย่างใกล้ชิด จากการสังเกตดูของกระทรวงสาธารณสุข พบว่าการแพร่ระบาดในเอเชียจะตามทวีปยุโรป เมื่อตัวเลขทางยุโรปนิ่งแล้ว ทางเอเชียจะเพิ่มขึ้น จึงวางใจไม่ได้” พญ.อภิสมัย กล่าว

สำหรับการเฝ้าระวังโควิดสายพันธุ์โอมิครอนในไทยวันนี้ ตรวจพบแล้ว 205 ราย เพิ่มขึ้นจาก 104 รายเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.64 ซึ่งส่วนใหญ่พบจากนักท่องเที่ยวกลุ่ม Test&Go กรณีล่าสุดพบผู้ป่วยที่ จ.กาฬสินธุ์ เป็นคู่สมรสที่เดินทางมาจากประเทศเบลเยี่ยม อายุ 47 ปีเท่ากัน

ทั้งนี้จากการสำรวจของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เมื่อวันที่ 20-23 ธ.ค.64 จากการสำรวจ 874 ตัวอย่าง พบว่าเป็นสายพันธุ์เดลตา 83.8% อีก 16.2% เป็นสายพันธุ์โอมิครอน หากแยกเป็นเฉพาะ กทม.จำนวน 207 ตัวอย่าง จะเป็นสายพันธุ์เดลตา 56.5% และสายพันธุ์โอมิครอน 43.5% ส่วนต่างจังหวัด 667 ตัวอย่าง จะเป็นสายพันธุ์เดลต้า 92.2% และสายพันธุ์โอมิครอน 7.8%

ขณะที่นักท่องเที่ยวผ่านระบบ Test&Go ที่ติดเชื้อโควิด 221 ตัวอย่าง จะเป็นสายพันธุ์โอมิครอน 52.9% และสายพันธุ์เดลตา 47.1% โดยสัดส่วนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนวันนี้มีเกินครึ่งหนึ่ง เพิ่มขึ้นจาก 1 ใน 4 เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.64 ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดในสหรัฐที่เพิ่มสัดส่วนจาก 12% เป็น 72% เพียงสัปดาห์เดียว

อีกทั้งยังมีผลศึกษาจากสหราชอาณาจักร พบว่า อัตราการนอนรักษาตัวของผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาจะอยู่ที่ 50% ส่วนสายพันธุ์โอมิครอนจะอยู่ที่ 20-25% แต่อัตราความรุนแรงไม่แตกต่างกัน และหากอยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อจะมีโอกาสติดเชื้อได้มากกว่า ทำให้หลายหน่วยงานยกเลิกจัดงานปีใหม่ ร้านอาหารบางแห่งปิดเพื่อเตรียมยกระดับมาตรการ

อย่างไรก็ตาม การที่จะไปสรุปว่าสายพันธุ์โอมิครอนรุนแรงน้อยกว่า ไม่ต้องระมัดระวังมาก จะเป็นการด่วนสรุปเร็วเกินไป เหมือนในอังกฤษที่มีผู้ติดเขื้อเพิ่มขึ้นจนระบบสาธารณสุขตึงตัว

พญ.อภิสมัย กล่าวถึงการจัดงานปีใหม่ของแต่ละจังหวัดว่าสามารถปรับมาตรการให้เข้มงวดมากกว่าที่ ศบค.กำหนดไว้ได้ เช่น ที่ภูเก็ต เชียงใหม่ นครราชสีมา พระนครศรีอยุธยา และระยอง ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากประชาชน พร้อมทั้งขอให้ข้าราชการทุกภาคส่วนเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการแพร่ระบาด

ขณะที่การจัดงานปีใหม่เป็นกลุ่มเล็ก ๆ เฉพาะในครอบครัว ศบค.ชุดเล็ก ก็มีความเป็นห่วง ขอแนะนำให้ตรวจ ATK ด้วยตนเองทั้งก่อนและหลังร่วมงาน

“ขอให้แต่ละจังหวัดเฝ้าคัดกรองคนที่จะกลับบ้าน เนื่องจากอาจจะมีการติดเชื้อ แต่ไม่แสดงอาการ และเมื่อจบเทศกาลปีใหม่แล้วมีการเดินทางกลับมาทำงานก็มีความเสี่ยง จึงขอเน้นย้ำสถานประกอบการโรงงานคัดกรองบุคคล เพราะมีความเสี่ยงจากการพบปะสังสรรค์หากมีการติดเชื้อ” พญ.อภิสมัย ระบุ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ธ.ค. 64)

Tags: , , , , ,
Back to Top