MPG เล็งผุดรพ.ทางเลือก เปิดทางพันธมิตรร่วม ต่อยอดค้าปลีก-ค้าส่ง

นายสามารถ ฉั่วศิริพัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอ็มพีจี คอร์ปอเรชั่น (MPG) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมแผนการดำเนินงานธุรกิจใหม่และยุติธุรกิจเดิมทั้งหมด หากได้รับการสนับสนุนแผนเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/64 ในวันที่ 10 ก.พ.นี้ เพื่อให้บริษัทสามารถเดินต่อไปได้

นายสามารถ ระบุว่า การประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในเดือน ก.พ.นี้ต้องรอดูว่าบริษัทจะได้รับการอนุมัติหรือไม่และจะได้เงินจากการเพิ่มทุนอย่างไร โดยระหว่างนี้บริษัทก็จะดำเนินการแก้ไขปัญหาเดิมที่ค้างคาสะสม คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จได้ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อให้ผู้ถือหุ้นอนุมัติและเห็นด้วยกับไอเดียใหม่ของบริษัท

“เราเตรียมแผนไว้แล้ว เราอยากเข้าไปสู่ธุรกิจเฮลแคร์ หรือบริการทางการแพทย์ แพทย์แผนไทย แต่ก็ต้องรอเสนอผู้ถือหุ้นก่อน ว่าจะซื้อไอเดียเราหรือไม่ และทางเราจะได้รับเงินสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นมากน้อยแค่ไหน ส่วนธุรกิจเดิมเราคงปิดกิจการลงทั้งหมด

เราคงต้องบอกกับผู้ถือหุ้นว่ายังไงเราก็อยู่ในธุรกิจเดิมไม่ได้แล้ว และจำเป็นต้องเปลี่ยนธุรกิจ เนื่องจากได้พิสูจน์มาแล้ว จากผู้ถือหุ้นเดิมที่ไม่อนุมัติให้เพิ่มทุนเพื่อไปลงในธุรกิจเดิม บวกกับอีคอมเมิร์ซในปัจจุบันก็เปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก และความได้เปรียบเดิมที่เรามี Outlet ก็ไม่มีความได้เปรียบอีกแล้ว ฉะนั้นการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งใหม่ จำเป็นต้องเปลี่ยน ถ้าไม่เปลี่ยนบริษัทก็ไปต่อไม่ได้” นายสามารถ กล่าว

ก่อนหน้านี้ การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 63 ผู้ถือหุ้นไม่ได้อนุมัติให้มีการเพิ่มทุนภายใต้ธุรกิจปัจจุบัน ขณะที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทวานนี้อนุมัติให้ลดทุนจดทะเบียนด้วยการตัดหุ้นที่ยังไม่ได้นำออกขาย จากนั้นให้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 2.93 พันล้านบาท ด้วยการออกหุ้นใหม่ 1.96 พันล้านหุ้น เสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) 1 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 0.10 บาท จากราคาพาร์ 1 บาท ระหว่างวันที่ 15-19 ก.พ.64

วัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความมั่นคงให้แก่บริษัททั้งในด้านการดำเนินงานและด้านเงินทุน โดยบริษัทมีแผนที่จะนำเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน 60-70 ล้านบาท คิดเป็น 31-36% ของจำนวนเงินที่ได้รับกรณีที่สามารถเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ได้ทั้งหมด และถ้าได้รับเงินเพียงพอจะนำไปใช้ในการรองรับการขยายธุรกิจต่อไป

นายสามารถ กล่าวว่า ธุรกิจใหม่ที่จะนำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งนี้จะมุ่งไปสู่ธุรกิจโรงพยาบาล สถานพยาบาล รับรักษาคนไข้และผู้ป่วยเจ็บ รับทำการฝึกสอนและอบรมทางด้านวิชาการเกี่ยวกับการแพทย์ การอนามัย ซึ่งจะเป็นลักษณะโรงพยาบาลทางเลือก เช่น แพทย์แผนไทย แผนโบราณ เป็นต้น

เนื่องจากบริษัทมองว่าเป็นธุรกิจดังกล่าวอยู่ในเทรนด์ของการเติบโต ซึ่งบริษัทจะจับมือกับพันธมิตรในประเทศที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อร่วมกันดำเนินธุรกิจ และจะมีตัวแทนเข้ามาเป็นคณะกรรมการของบริษัทด้วย โดยในวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น บริษัทก็จะชี้แจงถึงเหตุผล ข้อได้เปรียบทางธุรกิจดังกล่าว รวมถึงเปิดตัวพันธมิตรที่จะเข้ามาร่วม

“ถ้าเราจะดำเนินธุรกิจโรงพยาบาล เราคงไม่ไปแข่งกับโรงพยาบาลที่มีในปัจจุบัน เพราะเราคงแข่งขันไม่ได้ แต่เราจะไปในโรงพยาบาลเฉพาะด้าน ซึ่งเราอยู่ระหว่างเจรจากับทางพันธมิตร อย่างไรก็ตามมองว่าตลาดดังกล่าวยังพอมีช่องว่างให้เราเดิน และเป็นเทรนให้เราเดินต่อได้ อีกทั้งยังใช้งบลงทุนไม่สูงมากด้วย”

นายสามารถ กล่าว

พร้อมกันนั้น บริษัทจะต่อยอดธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจใหม่ด้านเฮลท์แคร์ ได้แก่ การนำเข้า ส่งออก จำหน่าย ผลิต รับจ้างผลิต ฝากขาย และเป็นนายหน้าหรือตัวแทนจำหน่าย ยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ ยาแผนไทย ยาสมุนไพร ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เคมีภัณฑ์ เวชภัณฑ์ เวชสำอาง เครื่องมือแพทย์ ผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม อุปกรณ์รักษาสุขภาพอนามัยส่วนบุคคล ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รวมทั้งกลุ่มเกลือแร่ อาหาร เครื่องดื่มเพื่อการควบคุมน้ำหนัก, กิจการเพาะปลูก วิจัย ขายส่ง ขายปลีก นำเข้า ส่งออก เมล็ดพันธุ์ กิ่งพันธุ์ เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อสมุนไพร และพันธุ์พืช

ส่วนธุรกิจปัจจุบันที่ประกอบด้วย ธุรกิจไลฟ์สไตล์เทคโนโลยีภายใต้แบรนด์ GIZMAN (กิซแมน) จำหน่ายแก็ดเจ็ต และอุปกรณ์ไอทีต่างๆ, ธุรกิจเครื่องสำอางและเวชสำอางภายใต้แบรนด์ STARDUST จำหน่ายแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก รวมถึงบริษัทย่อย คือ บริษัท โซล เมท อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ทำธุรกิจการจ้างผลิต (OEM) และจัดจำหน่ายเครื่องสำอางและเวชสำอาง และบริษัท เอ็มพีจี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ซึ่งยังไม่ได้ดำเนินกิจการ ก็จะยุติการดำเนินงานลงทั้งหมดเพื่อไปมุ่งเน้นในธุรกิจใหม่

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ม.ค. 64)

Tags: , , ,
Back to Top