ครม.อนุมัติงบกลาง 166 ลบ.เป็นค่า VAT สั่งซื้อวัคซีนล่วงหน้า

นายอนุชา บูรพชัยศรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติวงเงิน 166,530,000 บาทสำหรับจ่ายเป็นค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT (7% ของมูลค่าวัคซีนที่จอง) ในการจองวัคซีนจากบริษัท AstraZeneca ล่วงหน้าจำนวน 26 ล้านโดส ในโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับประชาชนไทยเป็นวงเงิน 6,216.25 ล้านบาท

โดยเพิ่มงบประมาณในส่วนการจัดหาวัคซีนโดยการจองล่วงหน้าผ่านความร่วมมือแบบทวิภาคีกับบริษัท AstraZeneca รวมกับงบสำหรับ VAT เป็น 2,545.9606 ล้านบาท จากเดิม 2,379.4306 ล้านบาท

ทั้งนี้ เป็นการขอทบทวนมติ ครม.เมื่อวันที่ 17 พ.ย.63 โดยปรับกรอบงบประมาณโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับประชาชนไทย โดยการจองล่วงหน้าจากวงเงิน 6,049.72 ล้านบาท เป็นวงเงิน 6,216.25 ล้านบาท โดยเพิ่มงบประมาณในส่วนการจัดหาวัคซีนโดยการจองล่วงหน้าผ่านความร่วมมือแบบทวิภาคีกับบริษัท AstraZeneca เพื่อให้มีงบประมาณเพียงพอสำหรับ VAT ในการดำเนินงานดังกล่าว

โดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติจะได้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ต่อไป

นายอนุชา บูรพชัยศรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติวงเงิน 166,530,000 บาทสำหรับจ่ายเป็นค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT (7% ของมูลค่าวัคซีนที่จอง) ในการจองวัคซีนจากบริษัท AstraZeneca ล่วงหน้าจำนวน 26 ล้านโดส ในโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับประชาชนไทยเป็นวงเงิน 6,216.25 ล้านบาท โดยเพิ่มงบประมาณในส่วนการจัดหาวัคซีนโดยการจองล่วงหน้าผ่านความร่วมมือแบบทวิภาคีกับบริษัท AstraZeneca รวมกับงบสำหรับ VAT เป็น 2,545.9606 ล้านบาท จากเดิม 2,379.4306 ล้านบาท

ทั้งนี้ เป็นการขอทบทวนมติ ครม.เมื่อวันที่ 17 พ.ย.63 โดยปรับกรอบงบประมาณโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับประชาชนไทย โดยการจองล่วงหน้าจากวงเงิน 6,049.72 ล้านบาท เป็นวงเงิน 6,216.25 ล้านบาท โดยเพิ่มงบประมาณในส่วนการจัดหาวัคซีนโดยการจองล่วงหน้าผ่านความร่วมมือแบบทวิภาคีกับบริษัท AstraZeneca เพื่อให้มีงบประมาณเพียงพอสำหรับ VAT ในการดำเนินงานดังกล่าว

โดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติจะได้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ต่อไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ม.ค. 64)

Tags: , , , , ,
Back to Top