หุ้นไทยเช้านี้แนวโน้มซิกแซกขึ้นลุ้นทะลุด่าน 1,500 คาดหวังมาตรการกระตุ้นศก.สหรัฐ

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ซิกแซกขึ้น-ลุ้นทะลุด่าน 1,500 จุด รับแรงหนุนจากหุ้นโลกเป็นเชิงบวก โดยตลาดภูมิภาคเช้านี้แกว่งบวกเป็นส่วนใหญ่จากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ-วัคซีนของ”จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน”หนุนสินทรัพย์เสี่ยง ส่วนบ้านเราต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเป็นครั้งแรกรอบ 11 วัน-เงินดอลลาร์อ่อนค่าเป็นสัญญาณบวกต่อทิศทางการลงทุนต่างชาติ รวมถึงราคาน้ำมันขึ้นหนุนกลุ่มพลังงาน ให้แนวรับ 1,490-1,492 แนวต้าน 1,500 ถัดไป 1,510-1,515 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะซิกแซกขึ้น และมีลุ้นทะลุแนว 1,500 จุด จากแรงหนุนตลาดหุ้นโลกเป็นเชิงบวก โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้เคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ จากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐคืบหน้า แม้ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯจะออกมาไม่ดี แต่นักลงทุนได้มองข้ามไปแล้ว อีกทั้งวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) เสริมความมั่นใจในการถือสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น

ส่วนบ้านเรานักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเป็นครั้งแรกในรอบ 11 วัน และเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าวันนี้เป็นสัญญาณบวกจากทิศทางการลงทุนต่างชาติ รวมถึงราคาน้ำมันก็ยังปรับขึ้นส่งผลดีต่อกลุ่มพลังงาน

อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะมีการพิจารณามาตรการ”เรารักกัน”ช่วยเหลือผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และติดตามการปรับน้ำหนักของ MSCI รวมถึงหุ้นใหญ่เข้าเทรดในปลายสัปดาห์นี้ และหลายตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียจะปิดทำการในช่วงเทศกาลตรุษจีน

พร้อมให้แนวรับ 1,490-1,492 จุด ส่วนแนวต้าน 1,500 ถัดไป 1,510-1,515 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (5 ก.พ.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,148.24 จุด เพิ่มขึ้น 92.38 จุด (+0.30%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,886.83 จุด เพิ่มขึ้น 15.09 จุด (+0.39%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,856.30 จุด เพิ่มขึ้น 78.55 จุด (+0.57%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 8.23 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 52.39 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 340.40 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (5 ก.พ.)1,496.61 จุด เพิ่มขึ้น 13.63 จุด (+0.92%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 216.17 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 64
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (5 ก.พ.) ปิดที่ 56.85 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 62 เซนต์ หรือ 1.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (5 ก.พ.) อยู่ที่ 2.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 30.03/06 แนวโน้มแกว่งแคบในกรอบ 30.00-30.10 ตลาดไร้ปัจจัยใหม่
  • นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างศึกษาการปรับโครงสร้างภาษีเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปภาษีทั้งระบบเพื่อให้สอดคล้องกับการเติบโตเศรษฐกิจและมีรายได้เพียงพอกับนโยบายการคลังที่ต้องดำเนินการในอนาคต “นับตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งผมกังวลการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ที่ลดลงเรื่อยๆ เพราะจะทำให้รัฐบาลดำเนินนโยบายการคลังแบบขยายตัวในระยะยาวได้ยากขึ้น ซึ่งในอดีตการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลต่อจีดีพีอยู่ที่ 18% ปัจจุบันอยู่ที่ 14% ถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำเกินไป ดังนั้นจึงต้องมีการปฏิรูปการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลเพื่อให้รัฐบาลมีรายได้มากพอที่จะทำนโยบายการคลังแบบขยายตัวในอนาคต”.
  • กองทุนรับสนใจลงทุนธุรกิจกัญชงเพื่อพาณิชย์หลังไทยปลดล็อกกฎหมายในไทย “บลจ.ฟิลลิป” พร้อมส่ง “ฟิลลิปเวิลด์อินโนเวชั่น” เข้าลงทุนหากตลาดบูม ราคาเหมาะสม ด้าน บลจ.เอ็มเอ็ฟซี แจงเป็นเรื่องใหม่ต้องติดตามใกล้ชิด ขณะ บลจ.กสิกรไทยชี้รัฐปลดล็อกเอื้อ บจ.ขยายการลงทุนสู่ธุรกิจใหม่ คาดไตรมาส 4 ปี 64 เห็นภาพชัดเจน แต่ตั้งกองทุนธีเมติกฟันด์ลงทุนปีนี้อาจน้อย.
  • กระทรวงอุตฯ คาดตัวเลขการส่งออกเม็ดพลาสติกชีวภาพ ปี 64 ขยายตัวจากปี 63 เพิ่มขึ้น 16.6% คิดเป็นมูลค่ากว่า 2,700 ล้านบาท โชว์เป็นอันดับที่ 3 ของโลก.
  • รฟท.รื้อแผนพัฒนาเชิงพาณิชย์ สถานีกลางบางซื่อ ใช้โมเดล ทอท.ขึงพื้นที่ให้สัมปทาน มีกำไรตั้งแต่ปีแรก เร่งประมูล มิ.ย.นี้ คาดรายได้เฉลี่ย 200 ล้าน/ปี เตรียมชง คนร.ทบทวนมติ ขอเปิด PPP เดินรถสายสีแดงแทนตั้งบริษัทลูก

หุ้นเด่นวันนี้

  • KCE (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 64.00 บาท คาดรายได้ของ KCE ในปี 2564 เติบโตต่อเนื่องตามภาค Real Sector ที่ฟื้นตัว ส่งผลให้ความต้องการแผงวงจรเพิ่มขึ้น และได้ประโยชน์จากเทรนของรถ EV-Car ในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น หลายประเทศทยอยออกมาตรการสนับสนุนการใช้ EV-Car พร้อมประเมินกำไรสุทธิใน ปี 2563-2564 ที่ 1.2 พันลบ. และ 1.8 พันลบ. เติบโต +30%YoY, +53%YoY ตามลำดับ
  • PTTEP (กรุงศรี) “ซื้อ”เป้า 125 บาท ได้ Sentiment บวกจากราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 1 ปี และมองบวกจากดีลซื้อแหล่งผลิตก๊าซฯและคอนเดนเสทในโอมานช่วยเพิ่มกำลังการผลิตให้กับ PTTEP ประมาณ 17%
  • SFT (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อเก็งกำไร”เป้า 5 บาท คาดกำไร Q4/63 +6% Q-Q, +119% Y-Y จากคำสั่งผลิตที่มากหลังลูกค้ากลุ่มเครื่องดื่มออกสินค้าใหม่ค่อนข้างมากในช่วง 2H20 หนุนกำไรทั้งปีคาด +40% Y-Y พร้อมคาดกำไรปี 2564-2565 โตเฉลี่ย 20% ต่อปี ล่าสุดได้คำสั่งผลิตจาก Tofusan ที่ผลิตชานมไต้หวันให้ TKN และมีโอกาสสูงที่จะได้งานจาก ICHI ที่จะทำเครื่องดื่ม OEM รวมถึงได้ประโยชน์ทางอ้อมหากลูกค้าทำเครื่องดื่มใหม่ผสมกัญชงในอนาคต

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (8 ก.พ. 64)

Tags: , , , , , ,
Back to Top