สนข. จัดทำแผนพัฒนาการเดินทางทางน้ำในเขตกทม.-ปริมณฑล

นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวเปิดการสัมมนาโครงการศึกษาจัดทำแผนพัฒนาการเดินทางทางน้ำในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และการเชื่อมต่อการเดินทางรูปแบบอื่น กรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 1 ว่า สนข. ได้ดำเนินการศึกษาจัดทำแผนพัฒนาการเดินทางทางน้ำ ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และการเชื่อมต่อการเดินทางรูปแบบอื่น

มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิเคราะห์ปัญหาด้านการเดินทางทางน้ำในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อรองรับความต้องการในการเดินทางทั้งในปัจจุบันและตามแผนงานในอนาคตและศึกษาทบทวน ข้อมูลสถานะภาพการเดินทางทางน้ำของประเทศไทย และในประเทศที่มีแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practice)

รวมทั้งจัดทำแผนพัฒนาการเดินทางทางน้ำฯ และข้อเสนอแนะ ทิศทางการพัฒนาด้านการเดินทางทางน้ำให้สอดคล้องกับการพัฒนาเมือง การพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน การขนส่งสาธารณะ และการเชื่อมต่ออย่างบูรณาการ ลดความซ้ำซ้อนในการดำเนินงานได้อย่างมีเหมาะสม ตลอดจนให้มีต้นแบบในการพัฒนาเส้นทางเดินเรือในคลองที่มีตอบสนองทั้งการคมนาคม การอนุรักษ์ และการท่องเที่ยว

นายปัญญา กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีเรือโดยสารสาธารณะให้บริการในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จำนวน 5 เส้นทาง มีระยะทางรวม 77 กิโลเมตร ประกอบด้วย

  1. เส้นทางของเรือด่วนเจ้าพระยา และเรือไฟฟ้าให้บริการในแม่น้ำเจ้าพระยา
  2. เส้นทางในคลองแสนแสบ
  3. เส้นทางในคลองผดุงกรุงเกษม
  4. เส้นทางในคลองภาษีเจริญ และ
  5. เส้นทางในคลองประเวศบุรีรมย์ (คลองพระโขนง)

ซึ่งพบว่า มีท่าเรือ ที่สามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบันในรัศมี 500 เมตร ประกอบด้วย

  • ท่าเรือที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดินสายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) จำนวน 10 สถานี ได้แก่ สถานีอโศก สถานีหัวลำโพง สถานีบางไผ่ สถานีบางหว้า สถานีเพชรเกษม 48 สถานีภาษีเจริญ สถานีสะพานพระนั่งเกล้า สถานีบางโพ สถานีสนามไชย และสะพานตากสิน
  • ท่าเรือที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าบีทีเอส (สายสีเขียว) จำนวน 2 สถานี ได้แก่ สถานีราชเทวี และสถานีบางหว้า
  • ท่าเรือที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Airport Rail Link) จำนวน 2 สถานี ได้แก่สถานีมักกะสัน สถานีรามคำแหง

อย่างไรก็ตาม การให้บริการเรือโดยสารสาธารณะในแม่น้ำและคลอง ยังมีความจำเป็นต้องปรับปรุงสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านกายภาพที่เป็นอุปสรรคต่อการเดินเรือ เช่น การรุกล้ำลำคลอง ปัญหาของประตูระบายน้ำ หรือสะพานกีดขวางการเดินเรือ ปัญหาด้านการให้บริการเดินเรือโดยสาร เช่น เรือวิ่งเสียงดัง เรือปล่อยควันดำ หรือปัญหาด้านความปลอดภัยกรณีมีผู้โดยสารหนาแน่นในช่วงเวลาเร่งด่วน รวมทั้ง ปัญหาด้านท่าเรือโดยสาร เช่น ท่าเรือชำรุด ขาดสิ่งอำนวยความสะดวกที่ท่าเรือ ตลอดจนปัญหาด้านการเข้าถึงท่าเรือและเชื่อมต่อการเดินทาง กับระบบขนส่งสาธารณะอื่น เช่น ทางเดินเข้าออกท่าเรือมีสิ่งกีดขวางแสงสว่างไม่เพียงพอ ไม่ปลอดภัย ไม่มีป้ายบอกเส้นทางเข้าออกท่าเรือ และจุดเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะอื่นห่างไกลจากท่าเรือ

นายปัญญา กล่าวว่า สนข. ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและความจำเป็นดังกล่าว จึงได้จัดทำแผนพัฒนาการเดินทางทางน้ำในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและการเชื่อมต่อการเดินทางรูปแบบอื่น (W-MAP) ในลักษณะ ล้อ ราง เรือ เพื่อเป็นการยกระดับการเดินทางทางน้ำ ให้ทางเลือกในการสัญจร และท่องเที่ยว รองรับความต้องการเดินทาง และการเติบโตของเมืองอย่างยั่งยืน สำหรับการจัดสัมมนาฯ ในครั้งนี้ เป็นการนำเสนอผลการศึกษาเบื้องต้น เกี่ยวกับบทบาทความสำคัญของการเดินทางทางน้ำ และสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินโครงการฯ รวมทั้งรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากหน่วยงานราชการ หน่วยงานเอกชน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่าง ๆ จากผู้เข้าร่วมสัมมนา ซึ่ง สนข. จะได้นำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะอันเป็นประโยชน์ ไปใช้ประกอบการศึกษาวิเคราะห์ในโครงการศึกษาจัดทำแผนพัฒนาการเดินทางทางน้ำในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล และการเชื่อมต่อการเดินทางรูปแบบอื่นต่อไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.พ. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top