โบรกฯ เห็นพ้อง SET ปีนี้เคลื่อนไหวกรอบ 1,450-1,600 จุด วัคซีนหนุนเศรษฐกิจฟื้น

นายกัณฑรา ลดาวัลย์ ณ อยุธยา กรรมการบริหารสายงานธุรกิจค้าหลักทรัพย์ บล. ฟินันเซีย ไซรัส เปิดเผยว่า คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยปีนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,450-1,600 จุด โดยมองพื้นฐานการลงทุนในปีนี้จะได้รับปัจจัยที่ดีจากการฟื้นตัวของภาพรวมเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังที่มีโอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้มากกว่าช่วงครึ่งปีแรก โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น และวัคซีนโควิด-19 ที่มีให้กับประชาชนมากขึ้น

ทั้งนี้มองว่าอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกจะไม่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในระยะเวลาอันใกล้ และมองว่าจะไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงแล้ว ในส่วนของทิศทางเงินทุนต่างประเทศเชื่อว่าจะเริ่มไหลกลับเข้ามาได้บ้าง เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาเงินทุนต่างชาติไหลออกไปค่อนข้างมากแล้ว แต่อย่างไรก็ตามการไหลกลับของเงินทุนต่างชาติอาจจะช้าบ้าง เพราะในปัจจุบันทางเลือกของการลงทุนมีค่อนข้างมาก

โดยแนะนำหุ้น GPI ที่จะกลับมาสามารถจัดงานมอเตอร์โชว์ได้ และราคาปรับตัวลดลงมาต่ำมากแล้ว, SISB โรงเรียนจะสามารถกลับมาเปิดได้ และจะมีการเปิดโรงเรียนแห่งใหม่ต่อเนื่องใน 2 ปีข้างหน้า, GULF โอกาสที่จะเติบโตมีอย่างต่อเนื่องไปถึงปี 65 และ TISCO, AEONTS จะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่จะทำให้มีจำนวนผู้ต้องการกู้มากขึ้น

นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการและประธานสายธุรกิจรายย่อย บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า มองภาพรวมการลงทุนต่อจากนี้จะเปลี่ยนไปเนื่องจากนโยบายการเงินทั่วโลกที่จะปรับเปลี่ยนไป โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายทั่วโลกที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบจะไม่มากเหมือนช่วงก่อนหน้านี้ หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ตัวเลขเศรษฐกิจฟื้นตัวได้เร็วกว่าที่คาด โดยในส่วนของประเทศไทยคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังการท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นตัวได้

โดยมองกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีปีนี้ที่ 1,450-1,600 จุด และคาดว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนอยู่ที่ 75-80 บาทต่อหุ้น ซึ่งหากดัชนีลงมาที่ระดับ 1,450 จุด จะมีแรงซื้อเข้ามา และหากขึ้นใกล้เคียงที่ 1,600 จุดก็จะมีแรงขายออกมาเช่นกัน

แนะนำการลงทุนในกลุ่มธุรกิจดั้งเดิม ที่จะเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ คือ กลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว กลุ่มธนาคาร และกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ TOP, SPRC, PTTGC และ AOT

ด้านนายกวี ชูกิจเกษม รองกรรมการผู้จัดการ บล. กสิกรไทย เปิดเผยว่า มองดัชนีตลาดหุ้นไทยในปีนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,450-1,600 จุด บนพื้นฐานกำไรสุทธิบริษัทจดทะเบียนที่ 91 บาทต่อหุ้น โดยในช่วงที่ผ่านมาแม้ว่าจะยังไม่มีวัคซีนไวรัสโควิด-19 เข้ามาเศรษฐกิจก็ยังสามารถฟื้นตัวได้ หลังจากนี้ที่เริ่มฉีดวัคซันไวรัสโควิด-19 ได้เชื่อว่าจะเข้ามาช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นอีก

โดยที่หุ้นกลุ่มต่อไปที่จะกลับมาปรับตัวขึ้นคือ ภาคการบริการ ภาคการท่องเที่ยว และอาหารที่จะเริ่มกลับมาและรวดเร็วมากโดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ค่อนข้างดี และการฉีดวัคซีน ณ สิ้นปี 64 จะอยู่ที่ 50% ทั่วโลก และในปี 65 จะมีปริมาณการฉีดวัคซีนที่ 70% ของประชากรทั่วโลก จะทำให้เศรษฐกิจในปี 65 ฟื้นตัวอย่างโดดเด่น

ขณะที่ทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายเชื่อว่าจะยังคงอยู่ในระดับปัจจุบัน เนื่องจากตัวเลขการจ้างงานจะกลับมาอยู่ในระดับปกติยังคงต้องใช้ระยะเวลา ขณะที่เงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้นมารวดเร็วนั้นเป็นผลมาจากฐานที่ต่ำในปีก่อน และราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากด้วย

แนะนำลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการบริโภคที่จะกลับมาฟื้นตัว คือ BBL ,PTTGC, CPF, CPALL, LH และ BDMS

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.พ. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top