หุ้นไทยปิดบวก 6.83 จุด ตามตลาดต่างประเทศ

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,550.59 จุด เพิ่มขึ้น 6.83 จุด (+0.44%) มูลค่าการซื้อขาย 99,228.68 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้นเช่นเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดในเอเชียเหนือพลิกเป็นบวกรับข่าวกองทุนของรัฐบาลจีนเข้าแทรกแซงตลาดหุ้นเพื่อรักษาเสถียรภาพ ส่งผลเงินหยวนเริ่มนิ่ง-รับแรงซื้อกลับหุ้นหลายตัวในเอเชีย ขณะที่ Bond yield ชะลอปรับขึ้น แต่ตลาดฯยังเป็นลักษณะเล่นเทรดดิ้งเวียนหุ้น พรุ่งนี้ตลาดฯยังมีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อ ให้แนวรับ 1,535-1,537 แนวต้าน 1,555-1,560 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,550.59 จุด เพิ่มขึ้น 6.83 จุด (+0.44%) มูลค่าการซื้อขาย 99,228.68 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,554.96 จุด และระดับต่ำสุด 1,537.23 จุด
  • ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 691 หลักทรัพย์ ลดลง 907 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 423 หลักทรัพย์

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นมาได้ ในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก โดยเฉพาะตลาดเอเชียเหนือที่พลิกมาบวกหลังจากมีข่าวกองทุนของรัฐบาลจีน หรือที่เรียกว่า “National Team” เข้าแทรกแซงตลาดหุ้นเพื่อรักษาเสถียรภาพ ส่งผลให้เงินหยวนที่อ่อนค่าก็เริ่มนิ่ง และมีแรงซื้อกลับมาได้บ้างในหุ้นหลายตัวในตลาดเอเชีย ด้านตลาดหุ้นในยุโรปเทรดบ่ายนี้ก็บวกเป็นส่วนใหญ่ คาดหวังผลดีจากการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และดาวโจนส์ฟิวเจอร์สบ่ายนี้ก็ปรับตัวขึ้นมาด้วย

ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) สหรัฐฯชะลอการปรับขึ้นทำให้หุ้นเริ่มฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้บ้าง อย่างไรก็ดี ตลาดยังเป็นลักษณะของการเล่นเทรดดิ้งในแบบหมุนเวียนหุ้นเล่นกันไป โดยเฉพาะหุ้นที่ปรับตัวลงไปมากแล้วก็ฟื้นขึ้นมาได้บ้าง อย่างกลุ่มสื่อสาร พร้อมแนะติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) วันที่ 11 มี.ค.นี้ และการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ในวันที่ 16-17 มี.ค.นี้ด้วย

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (10 มี.ค.) นายณัฐพล กล่าวว่า ตลาดฯยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ โดยหุ้นที่ Underperform น่าจะกลับมา Outperform ได้ โดยให้แนวรับ 1,535-1,537 จุด ส่วนแนวต้าน 1,555-1,560 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
EA มูลค่าการซื้อขาย 4,204.90 ล้านบาท ปิดที่ 58.50 บาท ลดลง 1.25 บาท
SCGP มูลค่าการซื้อขาย 3,997.77 ล้านบาท ปิดที่ 43.00 บาท ลดลง 1.75 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,953.21 ล้านบาท ปิดที่ 41.25 บาท ลดลง 0.75 บาท
JKN มูลค่าการซื้อขาย 2,704.65 ล้านบาท ปิดที่ 11.40 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,303.00 ล้านบาท ปิดที่ 22.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 มี.ค. 64)

Tags: ,
Back to Top