หุ้นไทยเช้านี้แนวโน้มลุ้นรีบาวด์ เล็งหุ้นบิ๊กแคปหนุนหลังราคาน้ำมันดีดขึ้น

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ลุ้นรีบาวด์ขึ้นได้เล็กน้อยจากหุ้นบิ๊กแคปหนุนหลังการปรับลดน้ำหนักลงทุนของฟุตซี่จบไปแล้ว-ราคาน้ำมันดีดขึ้นจากกังวลข่าวโรงงานน้ำมันแห่งหนึ่งในซาอุดีอาระเบียถูกโจมตีโดยโดรน ด้านตลาดภูมิภาคเช้านี้ส่วนใหญ๋ติดลบเล็กน้อยหลัง Bond yield สหรัฐฯทะลุ 1.7% กดดันตลาดบ้างแต่ก็รับรู้ไปแล้ว ส่วนบ้านเรามีปัจจัยการเมืองกดดันหลังมีการปะทะกันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมให้แนวรับ 1,555 แนวต้าน 1,575 จุด

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสรีบาวด์ขึ้นได้เล็กน้อย เล็งหุ้นขนาดใหญ่หนุนหลังเสร็จสิ้นการปรับลดน้ำหนักลงทุนของฟุตซี่ไปแล้ว และราคาน้ำมันก็ได้ปรับตัวขึ้น 2.4% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จากความกังวลข่าวที่ออกมาว่าโรงงานน้ำมันแห่งหนึ่งในซาอุดีอาระเบียถูกโจมตีโดยโดรน

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะติดลบเล็กน้อย โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (Bond yield) ได้ขึ้นมาทะลุ 1.7% แล้ว ก็กดดันตลาดบ้างแต่ก็มองว่าตลาดฯได้รับรู้ไปบ้างแล้ว ส่วนบ้านเราก็ได้รับแรงกดดันจากปัจจัยการเมืองในประเทศ ที่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการปะทะกัน

อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 24 มี.ค.นี้ และจับตาประธานธนาคารกลางสหรัฐฯจะแถลงต่อสภาคองเกรสในวันที่ 24 มี.ค.นี้ด้วยเช่นกัน

พร้อมให้แนวรับ 1,555 จุด ส่วนแนวต้าน 1,575 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (19 มี.ค.)ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,627.97 จุด ลดลง 234.33 จุด (-0.71%) และดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,913.10 จุด ลดลง 2.36 จุด (-0.06%) ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,215.24 จุด เพิ่มขึ้น 99.07 จุด ( +0.76%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.46 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ร่วงลง 347.95 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 189.85 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (19 มี.ค.)1,563.96 จุด ลดลง 4.86 จุด (-0.31%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,911.81 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 64
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (19 มี.ค.) ปิด 61.42 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.42 ดอลลาร์ หรือ 2.4%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (19 มี.ค.) อยู่ที่ 1.87 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 30.90 แนวโน้มอ่อนค่าตามตลาดโลก ผลจากบอนด์ยีลด์สหรัฐ กรอบ 30.85-30.95
  • นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงฯเดินหน้าผลักดันนโยบายรัฐบาลในการพัฒนาอุตสาหกรรมสมุนไพรไทย โดยเฉพาะกัญชง ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วนทั้งเปลือก ลำต้น เส้นใย กิ่งก้าน และราก โดยให้ถือเป็นวาระแห่งชาติในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและช่วยเหลือเกษตรกร ตลอดจนพัฒนานวัตกรรมทางการเกษตร โดยที่ผ่านมาได้สั่งการให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เร่งรัดประกาศมาตรฐานสารสกัดจากกัญชง
  • รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้มีความเคลื่อนไหวของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่รายหนึ่งได้ยื่นข้อเสนอให้ สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (สทค.) ในวันที่ 22 มี.ค.นี้ เพื่อทำหนังสือถึง นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ออกมาตรการความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการกิจการโทรคมนาคมเพิ่มเติมเพื่อบรรเทาจากสถานการณ์ โควิด-19
  • รฟท.รับลูก “ศักดิ์สยาม” ทบทวนแผนหารายได้พัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์สถานีกลางบางซื่อ ปรับพื้นที่ตามโมเดล ทอท. คาดเปิดประมูล มิ.ย.-ก.ค.นี้ ด้าน รฟม.เล็งขอความเห็นคมนาคม เคลียร์ผลเจรจาส่วนต่อขยายสายสีเหลือง หลังเปิดผลศีกษากระทบรายได้ BEM ราว 2.7 พันล้าน หวั่นซ้ำรอยจ่ายค่าโง่เอกชน
  • นายภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการ บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จำกัด หรือ เอ็มไอ กล่าวว่า อุตสาหกรรมโฆษณาในเดือนมี.ค.ปีนี้ เริ่มเห็นสัญญาณบวก หลังจาก 2 เดือนแรกของปีนี้ยังติดลบอยู่ที่ 7.8% มีเม็ดเงินโฆษณาในสื่อทั้งหมดเพียง 11,500 ล้านบาท ซึ่งติดลบต่อเนื่องจากปีที่แล้ว และเชื่อว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วจากผล กระทบวิกฤตโควิด-19 และกำลังเข้าสู่ช่วงการกระจายวัคซีนให้กับประชาชน ทำให้เริ่มเห็นสัญญาณต่างๆ ที่ดีขึ้น

หุ้นเด่นวันนี้

  • PACO (บมจ.เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์) เทรดวันนี้วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมีราคาขาย IPO ที่ 1.40 บาท/หุ้น บล.เคทีบีเอสที ประเมินหุ้น PACO ด้วยราคาเหมาะสมปี 2564 ที่ 1.50 บาท/หุ้น อิง PER 15x เท่ากับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม และ EPS ที่ 0.10 บาท โดยมองว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทจะเติบโตได้เป็นอย่างดี โดยมีกำไรสุทธิเติบโต CAGR 13.6% ในปี 2564/65 ทั้งนี้ บริษัทฯเป็นผู้นำธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนอะไหล่เครื่องปรับอากาศรถยนต์ทดแทน ให้แก่ลูกค้าในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งการส่งออกสินค้าครอบคลุมถึงตลาดในทวีปเอเชีย อเมริกาเหนือ ยุโรป อเมริกาใต้ และออสเตรเลีย มีสินค้ากว่า 2,600 รุ่น ครอบคลุมรถยนต์ในปัจจุบันกว่า 80% สินค้าหลัก
  • BANPU (กรุงศรี) “ซื้อ”เป้า 13 บาท ได้ Sentiment บวกราคาถ่านหิน (Newcastle) พุ่งแตะระดับ 93.8$/ton ทำสถิติสูงสุดในรอบ 2 ปี คาดหนุนผลประกอบการของ BANPU พลิกมีกำไรหลังจากที่ขาดทุนในปีที่ผ่านมา
  • RBF (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 22 บาท ธุรกิจกัญชงขั้นกลางน้ำ (โรงสกัด) มีความเสี่ยงน้อยกว่า ขณะที่โอกาสในการทำรายได้เมื่อสินค้าปลายน้ำได้รับความนิยมมีสูง ทั้งนี้ คาดทุกหน่วยเดิม (นอกเหนือจากกัญชง-กัญชา) ยังเติบโตสูง โดยเฉพาะสารแต่งสี-กลิ่นเครื่องดื่มที่เติบโตล้อไปกับอุตสาหกรรม ด้าน Bloomberg Consensus ประเมินกำไรเฉลี่ย ปี 2564-2565 ที่ 664 ลบ. และ 782 ลบ. +28%YoY, +18%YoY ตามลำดับ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 มี.ค. 64)

Tags: , , , , , ,
Back to Top