หุ้นไทยปิดบวก 0.21 จุด ดีกว่าตลาดตปท. รับแรงหนุนจากกลุ่ม ICT-พลังงาน-แบงก์

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,571.04 จุด เพิ่มขึ้น 0.21 จุด (+0.01%) มูลค่าการซื้อขาย 93,972.10 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดต่างประเทศ โดยตลาดเอเชีย-ตลาดในยุโรปแกว่งบวกและลบสลับกัน หลายตลาดแกว่งแคบ รวมถึงบ้านเรา กังวลโควิดระบาดแล้วทำให้การเปิดเมืองชะลอไป แต่บ้านเราได้แรงหนุนจากกลุ่ม ICT-พลังงาน-แบงก์ ซึ่งตลาดไปไหนไม่ไกล-เป็นเล่นเก็งหุ้นรายตัวตามปัจจัยเฉพาะตัว โดยมีแรงซื้อเข้าหุ้นที่ยังขึ้นได้อยู่ พรุ่งนี้ตลาดฯคงจะแกว่งตัวในกรอบ 1,560-1,585 จุด พร้อมให้จับตาทิศทางเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,571.04 จุด เพิ่มขึ้น 0.21 จุด (+0.01%) มูลค่าการซื้อขาย 93,972.10 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,580.17 จุด และระดับต่ำสุด 1,571.04 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 631 หลักทรัพย์ ลดลง 939 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 496 หลักทรัพย์

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบสลับกัน เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ก็แกว่งบวก-ลบเล็กน้อย โดยหลายตลาดแกว่งแคบ รวมถึงตลาดบ้านเรา เนื่องจากมีความกังวลการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 จะทำให้การเปิดเมืองต้องชะลอไป อย่างจีน แม้จะมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 กันแล้วแต่จีนกัยังห้ามการเดินทางออกนอกประเทศ เพราะมีความเป็นห่วงเรื่องการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 และต้องการสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศก่อน เพื่อให้เศรษฐกิจเดินต่อไปได้

สำหรับตลาดบ้านเราได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่ม ICT, พลังงาน และแบงก์ ซึ่งตลาดฯยังไม่ไปไหนไกล เนื่องจากมีการเล่นเก็งกำไรหุ้นเป็นรายตัวตามปัจจัยเฉพาะตัว โดยเห็นได้ว่ามีแรงซื้อเข้ามาที่หุ้นที่ยังขึ้นไปได้น้อยอยู่

“ต่างประเทศเขากังวลแรงขายหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี จากความกังวล Bond yield (อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล) ที่ปรับตัวลง และเงินดอลลาร์ฯแข็งค่าขึ้น จากมีเงินเข้าลงทุนในตลาดพันธบัตร”

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (26 มี.ค.) นายกิจพณ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัวในกรอบ 1,560-1,585 จุด พร้อมให้ติดตามทิศทางเงินดอลลาร์ฯที่แข็งค่าอยู่ในขณะนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงให้ตลาดอื่นมักเคลื่อนไหวไม่ดี และยังเป็นแรงกดดันเงินทุนไหลออกด้วย

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

  • OR มูลค่าการซื้อขาย 4,972.11 ล้านบาท ปิดที่ 32.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
  • GPSC มูลค่าการซื้อขาย 3,519.63 ล้านบาท ปิดที่ 76.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท
  • EA มูลค่าการซื้อขาย 3,299.41 ล้านบาท ปิดที่ 61.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
  • ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,661.52 ล้านบาท ปิดที่ 173.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
  • SAWAD มูลค่าการซื้อขาย 2,475.52 ล้านบาท ปิดที่ 85.00 บาท ลดลง 1.75 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 มี.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top