สัมภาษณ์พิเศษ: AGE ทรานฟอร์มใหญ่เป็นมากกว่าถ่านหินบุกโลจิสติกส์เต็มสูบก่อนเข็นเข้าตลาดหุ้น

ราคาหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นขานรับธีม “เปิดประเทศ” อานิสงส์เศรษฐกิจฟื้นตัว เช่นเดียวกับหุ้น บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) กลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 63 ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจเทรดดิ้งนำเข้าและส่งออกถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) เพื่อจำหน่ายให้กับกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมที่มีความต้องการเพิ่มขึ้น อีกทั้งรับประโยชน์จากแนวโน้มราคาถ่านหินในตลาดโลกยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง

ขณะที่ล่าสุด AGE เตรียมทุ่มงบลงทุนปีนี้เพื่อต่อยอดก้าวสู่ธุรกิจโลจิสติกส์แบบเต็มรูปเป็นการดำเนินงานผ่านบริษัทย่อยในเครือพร้อมสร้างการเติบโตก่อนจะมีแนวทางนำเข้าสู่การเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในอนาคต

เป็นมากกว่าถ่านหิน ทุ่มงบบุกโลจิสติกส์เต็มรูปแบบ

นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร AGE เปิดเผยกับ “อินโฟเควสท์” ว่า แม้ธุรกิจที่สร้างรายได้หลักให้กับบริษัท คือเทรดดิ้งถ่านหินจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าภาคอุตสาหกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นหลัก แต่ที่ผ่านมาบริษัทมีการวางรากฐานธุรกิจที่เข้ามาเสริมศักยภาพด้านต้นทุนเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ นั่นคือ ธุรกิจโลจิสติกส์ เริ่มตั้งแต่ต้นทาง คือ ท่าเรือ จากปัจจุบันมีอยู่แล้ว 3 ท่า ขณะที่บริษัทอยู่ในขั้นตอนขอใบอนุญาตก่อสร้างท่าเรือแห่งที่ 4 เพิ่มเติม พร้อมวางระบบโลจิสติกส์ทั้งรูปแบบรถบรรทุกและเรือขนส่ง รวมทั้งทีมงานที่มีศักยภาพเพื่อให้การให้บริการลูกค้านอกกลุ่ม AGE

และในปีนี้บริษัทมองเห็นโอกาสเติบโตของธุรกิจโลจิสติกส์ จึงมีแผนใช้เงินลงทุนกว่า 290 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเข้าซื้อสิทธิการเช่ากิจการท่าเรือเพิ่มอีก 3 ท่า และโกดังสินค้า 5 หลัง บนพื้นที่ทั้งหมด 31 ไร่ใน จ.พระนครศรีอยุธยา มูลค่าเงินลงทุน 90 ล้านบาทซึ่งจะสามารถนำเรือขนส่งสินค้ามาเทียบท่าเรือได้จำนวน 3 ลำ ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จตามแผนจะทำให้ปีนี้บริษัทจะมีท่าเทียบเรือรวมทั้งสิ้น 7 ท่า

นอกจากนั้น บริษัทจะลงทุนขยายกองรถบรรทุกขนส่งและเรือขนส่ง จากปัจจุบันมีรถบรรทุก 50 คันคาดจะซื้อเพิ่มขึ้นอีก 50 คันรวมเป็น 100 คัน ขณะที่กองเรือขนส่งปัจจุบันมี 30 ลำสามารถบรรทุกสินค้าได้กว่า 1 แสนตัน ก็มีแผนเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัว เพื่อเพิ่มปริมาณบรรทุกสินค้าอีก 1 แสนตัน โดยเรือขนส่งสินค้าล็อตใหม่จะเป็นรูปแบบการเช่าก่อนเพื่อควบคุมต้นทุนในช่วงแรก ให้สอดคล้องกับรองรับความต้องการของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ

นายพนม กล่าวว่า บริษัทเชื่อมั่นว่าธุรกิจโลจิสติกส์จะสร้างรายได้เพิ่มเป็น 2 พันล้านบาทในปีนี้ คิดเป็นสัดส่วน 20% ของเป้าหมายรายได้รวมของกลุ่ม AGE ในปี 64

จ่อดันบริษัทโลจิสติกส์เข้าตลาดหุ้นในอนาคต

นายพนม กล่าวต่อว่า แม้ว่าในปัจจุบันธุรกิจโลจิสติกส์จะดำเนินการผ่านบริษัทลูกเพื่อเกิดการ Synergy เพิ่มประสิทธิภาพบริหารต้นทุนและเสริมศักยภาพการแข่งขัน แต่อนาคตมีความเป็นไปได้ว่าอาจพิจารณานำบริษัทลูกที่ประกอบธุรกิจโลจิสติกส์เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

แต่สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเวลานี้คือการรักษาอัตราการเติบโตต่อเนื่อง แม้ว่าในปัจจุบันรายได้ส่วนใหญ่ในธุรกิจโลจิสติกส์จะมาจากการขนส่งถ่านหินเป็นหลัก แต่ในอนาคตมีแนวทางขยายการให้บริการขนส่งสินค้าประเภทอื่นๆ เพื่อเกิดความหลากหลายในด้านการให้บริการ เช่น สินค้าเกษตร ,เคมีภัณฑ์ เป็นต้น

“ธุรกิจโลจิสติกส์จากในอดีตบริษัทขนส่งแค่ถ่านหิน แต่ปัจจุบันดำเนินการขนส่งสินค้าหลายรูปแบบเป็นการทำสัญญากับกลุ่มลูกค้าที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่หลายราย เช่น ขนส่งวัตถุดิบ ,ทรายแก้วเพื่อผลิตขวด ,ขยะเชื้อเพลิง RDF เป็นการช่วยบริหารต้นทุนขนส่งขาไปและขากลับ

สมมติในอนาคตเราไม่ค้าถ่านหินแล้ว การกระจายโมเดลเข้าสู่ธุรกิจโลจิสติกส์เต็มรูปแบบ จะทำให้บริษัทก็อยู่ได้ และจะเติบโตไปพร้อมกับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ เป็นแนวทางเติบโตแบบยั่งยืน แม้ว่ารายได้จะน้อยกว่าธุรกิจเทรดดิ้งถ่านหิน แต่มีส่วนต่างกำไรที่ดีกว่าธุรกิจเทรดดิ้งถ่านหินที่มีอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ย 5% ขณะที่บางครั้งก็มีความผันผวนจากราคาถ่านหินและปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่บริษัทมุ่งเน้นลดต้นทุนมาโดยตลอด สะท้อนจากบริษัทมีกำไรทุกๆปี”

นายพนม กล่าว

รายได้ทะลุ 1 หมื่นลบ.เป็นปีแรก-เร่งกำไรโตทุบสถิติสูงสุดใหม่

สำหรับแนวโน้มราคาถ่านหินในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นระดับสูงตั้งแต่ปลายปี 63 ส่วนหนึ่งเกิดจากปลายปีก่อนภาวะอากาศหนาวอย่างรุนแรงในประเทศจีน ส่งผลให้ดีมานด์ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับ เกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการค้าจีนและออสเตรเลียที่เป็นหนึ่งในประเทศผู้ส่งออกถ่านหินรายใหญ่ ทำให้จีนหันมานำเข้าถ่านหินจากประเทศอื่นแทน

ขณะเดียวกันปริมาณถ่านหินลดลงจากกรณีประเทศอินโดนีเซียกำลังเผชิญกับภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ เป็นปัจจัยผลักดันราคาถ่านหิน โดยแค่เพียงเดือน ธ.ค.63 ราคาถ่านหินปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 40-50% จนล่าสุดถึงปลายไตรมาส 1/64 ราคาถ่านหินก็ยังสามารถทรงตัวอยู่ในระดับสูงได้อย่างต่อเนื่อง

บริษัทมีความเชื่อมั่นว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมาย 1.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งนับเป็นปีแรกตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมาที่รายได้ทะลุ 1 หมื่นล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากการรับรู้รายได้ Backlog ที่มีกว่า 1 ล้านตัน ซึ่งจะทยอยส่งมอบกับลูกค้าต่อเนื่องถึงไตรมาส 3/64 และระหว่างทางมีการเจรจาจำหน่ายถ่านหินเพิ่มเติม ประกอบด้วย กลุ่มลูกค้าในประเทศเป็นสัดส่วน 80% และต่างประเทศ 20% เพื่อบรรลุตามเป้าหมายปริมาณยอดขายถ่านหินปีนี้คาดเติบโตมาอยู่ที่ 5.5 ล้านตัน

อย่างไรก็ตาม หากเป็นไปตามแผนคาดว่าภาพรวมผลประกอบการในไตรมาส 1/64 มีโอกาสเติบโตทุบสถิติสูงสุดใหม่เป็นรายไตรมาส หรือคิดเป็น 1 ใน 4 ของเป้าหมายปีนี้

“ปี 64 เป็นหนึ่งปีที่ดีมากของบริษัท เป็นปีแรกที่บริษัทมีรายได้ทะลุ 1 หมื่นล้านบาท แม้ว่าก่อนหน้านี้มีความพยายามที่ไปให้ถึง 1 หมื่นล้านบาท แต่ก็ทำได้แค่ 8 พันล้านบาทเท่านั้น ขณะที่กำไรสุทธิที่บริษัทเคยทำสถิติสูงสุดไว้เมื่อปี 62 อยู่ที่ 272 ล้านบาท เชื่อมั่นว่ากำไรสุทธิปี 64 ก็จะเติบโตมากกว่าปี 62 ทุบสถิติสูงสุดใหม่ตามรายได้เช่นกัน

ขณะที่ทิศทางราคาถ่านหินที่ยังทรงตัวสูงต่อเนื่องมาในไตรมาสแรก ทำให้อัตรากำไรบริษัทดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าธุรกิจของบริษัทจะเป็นเทรดดิ้งถ่านหิน แต่มีกำไรจากส่วนต่างราคาถ่านหินที่สต็อกไว้เพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้ารวมถึงราคาค่าระวางเรือที่เพิ่มขึ้นโดดเด่นอีกด้วย”

นายพนม กล่าว

ปั้นบริษัทร่วมทุนรุกพลังงานเล็งโอกาสขยายพอร์ตโรงไฟฟ้า

ด้านธุรกิจด้านพลังงานนั้น ช่วงก่อนหน้านี้ AGE มีการขยายความร่วมมือกับพันธมิตรตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ บริษัทแอท เอนเนอจี โซลูชั่น จำกัด เป็นการร่วมมือกับ บมจ.ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น (TRC) และบริษัท แอพไพลแอ๊นซ์ เทคโนโลยี่ ซัพพลายส์ จำกัด (AP TECH) ดำเนินการการผลิตและจำหน่าย ไอน้ำ ไฟฟ้า และน้ำใช้ สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม โดยใช้เชื้อเพลิงถ่านหิน หรือเชื้อเพลิงอื่นๆในการผลิต

ปัจจุบันมีลูกค้าแล้ว 2 ราย เป็นโรงผลิตกล่องกระดาษในประเทศไทย คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาในไตรมาส 2/64และโรงผลิตปลากระป๋องในประเทศเวียดนาม คาดว่าจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/64 รวมทั้งอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้าอีกหลายราย

นอกจากนี้ โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์เริ่มรับรู้รายได้เข้ามาแล้วตั้งแต่ปลายปี 63 พร้อมกันนั้น บริษัทร่วมทุนยังมองหาโอกาสขยายพอร์ตโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมด้วย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 มี.ค. 64)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top