เงินบาทเปิด 31.25/27 แข็งค่าตามสกุลหลักหลังดอลลาร์อ่อนจากแรงขายทำกำไร

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.25/27 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิดตลาดวันทำการก่อนที่ระดับ 31.40/41 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทแข็งค่าตามสกุลหลัก หลังดอลลาร์อ่อนค่าจากแรงขายทำกำไร เนื่องจากในไตรมาส 1 ปรับขึ้นไปค่อนข้างมากขณะที่บอนด์ยีลด์คงที่ และเริ่มลดลง แต่ปัจจัยอื่นๆ ยังเป็นบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และนักลงทุนยังรอดูแผนลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานมูลค่ากว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ของสหรัฐว่าจะผ่านหรือไม่

นักบริหารเงิน คาดว่าวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.20-31.35 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (5 เม.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.38142% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.36807%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ 109.62/65 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันจันทร์อยู่ที่ 110.61 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1874/78 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ 1.1745 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.368 บาท/ดอลลาร์
  • ธปท.จ่อถก ผู้ค้าทอง เม.ย.นี้รับฟังความคิดเห็น หลังเปิดทางใช้ดอลลาร์ซื้อขายทองคำ หวังเป็นทางเลือกในการชำระเงินเพิ่ม หนุนบาทเคลื่อนไหวมีเสถียรภาพ ลดผันผวนมากขึ้น พร้อมเตรียมแถลงความคืบหน้าการสร้างระบบนิเวศอัตราแลกเปลี่ยน เม.ย.นี้
  • กระทรวงคลังเล็งทบทวนสัดส่วนถือหุ้นในบริษัทหลักทรัพย์ 119 แห่ง มูลค่ากว่า 2 ล้านล้านบาท ชี้ยึดหลักประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ และคำนึงถึงความจำเป็นการใช้ของเงินภาครัฐ
  • อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในปีนี้กระทรวงพาณิชย์มีแผนผลักดันการส่งออกข้าวไทยด้วยการเจรจาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ให้เพิ่มขึ้น โดยมีเป้าหมายที่อินโดนีเซีย บังกลาเทศ และจีน ซึ่งในส่วนของอินโดนีเซีย และบังกลาเทศ มีกรอบลงนาม (เอ็มโอยู) ซื้อข้าวจากไทยแล้วปีละ 1 ล้านตัน ส่วนจีนมีเอ็มโอยูที่ได้ลงนามภายใต้กรอบความร่วมมือรถไฟความเร็วสูงซึ่งได้ลงนามไปแล้ว 1 ล้านตันแรก แต่ทางจีนสั่งซื้อข้าวจากไทยเพียง 7 แสนตัน โดยยังเหลืออีกจำนวน 3 แสนตัน โดยกรมพยายามเร่งรัดให้จีนนำ
    เข้าข้าวในส่วน 3 แสนตันที่เหลืออย่างต่อเนื่อง
  • ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังเตรียมปรับประมาณการแนวโน้มเศรษฐกิจไทย ปี 2564 ในวันที่ 28 เม.ย. นี้ โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะไม่ชะลอตัวจากเดิมเคยคาดไว้ที่ 2.8% และมีแนวโน้มจะขยายตัวเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินไว้ ว่าปีนี้เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ถึง 3%
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 6% ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากที่เคยคาดการณ์เอาไว้เมื่อเดือนม.ค. ว่าจะขยายตัว 5.5% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากโครงการฉีดวัคซีนในหลายๆ ประเทศทั่วโลก อย่างไรก็ดี IMF ยังเตือนว่าความท้าทายยังคงมีอยู่ เนื่องจากแต่ละประเทศมีความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนไม่เท่ากัน
  • สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7.4 ล้านตำแหน่งในเดือนก.พ.จาก 6.9 ล้านตำแหน่งในเดือนม.ค.
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 เม.ย.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐชะลอตัวลง ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานการประชุมเดือนมี.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการชะลอตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับเพิ่มคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโลกทั้งในปีนี้และปีหน้า
  • นักลงทุนจับตารายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำเดือนมี.ค. ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันพุธตามเวลาสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 16-17 มี.ค. และส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนถึงปี 2566
  • ข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ดุลการค้าเดือนก.พ., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมี.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.พ.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 เม.ย. 64)

Tags: ,
Back to Top