หุ้นไทยปิดพุ่ง 25.95 จุด หลังตอบรับข่าวโควิดระบาดไปมากแล้ว-ผู้ติดเชื้อวันนี้แผ่วลง

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,574.91 จุด เพิ่มขึ้น 25.95 จุด (+1.68%) มูลค่าการซื้อขาย 87,452.88 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ขึ้นได้เด่นกว่าต่างประเทศ หลังจากปรับฐานลงมาจาก 1,600 รับแรงกดดันโควิดรอบใหม่เป็นหลัก ซึ่งตอบรับไปมากแล้ว และวันนี้จำนวนผู้ติดเชื้อแผ่วลงจึงรีบาวด์กลับได้ค่อนข้างดี นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนมาตรการภาครัฐคุมการแพร่ระบาดไม่ได้รุนแรงเหมือนในอดีต หากช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อไม่เร่งตัว ตลาดก็พร้อมที่ดีดตัวขึ้น และพรุ่งนี้ตลาดฯมีลุ้นแกว่งขึ้นได้ต่อ ให้แนวรับ 1,560 แนวต้าน 1,580 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,574.91 จุด เพิ่มขึ้น 25.95 จุด (+1.68%) มูลค่าการซื้อขาย 87,452.88 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,574.97 จุด และระดับต่ำสุด 1,552.91 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 1,170 หลักทรัพย์ ลดลง 565 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 321 หลักทรัพย์

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้เด่นกว่าตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียบวกเล็กน้อยราว 0.4% ขณะที่ตลาดยุโรปเทรดบ่ายนี้ก็แกว่งบวก-ลบเล็กน้อยสลับกัน

ตลาดบ้านเราปรับฐานลงมาจากระดับ 1,600 จุด รับแรงกดดันจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศเป็นหลัก แต่วันนี้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงจากเมื่อวานนี้ที่มีผู้ติดเชื้อกว่า 1,700 ราย ทำให้เห็นจำนวนแผ่วลง แม้ว่าจะยังวางใจไม่ได้ แต่ตลาดก็ได้ตอบรับไปมากแล้ว เพราะท้ายที่สุดจะกลับมาหลีงจากเริ่มเห็นสัญญาณดีจากแรงดึงกลับได้ค่อนข้างดีในวันนี้

นอกจากนี้ มาตรการของภาครัฐฯก็ไม่ได้รุนแรงเหมือนในอดีต แต่เชื่อว่าจะสามารถคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ดีขึ้น และคนก็เพิ่มความระมัดระวังกันมากขึ้นด้วย ซึ่งในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้หากตัวเลขผู้ติดเชื้อไม่เร่งตัวขึ้น ตลาดก็พร้อมที่จะดีดกลับขึ้นไป

อย่างไรก็ดี ช่วงนี้เป็นช่วงของการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยงบฯของสหรัฐฯคาดว่าจะออกมาในเชิงบวก เป็นการตอบรับว่าเศรษฐกิจโลกยังดี ส่วนบ้านเราก็ให้ติดตามต่อไป หลังจาก TISCO ประกาศ กำไรดีกว่าที่คาด แต่ยังก็ต้องรอดูงบฯของแบงก์ใหญ่

พร้อมกันนั้น ยังต้องติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนเม.ย.ของยุโรป และสหรัฐฯด้วย และการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 22 เม.ย.นี้ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ตัวเลขส่งออกของไทยจะประกาศออกมาด้วย

ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ก็แกว่งในแดนบวกเล็กน้อย จากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศวันนี้ที่ลดน้อยลง ประกอบกับได้แรงหนุนจากกลุ่มแบงก์หลังจากที่ผลประกอบการของ TISCO งวดไตรมาส 1/64 ออกมาค่อนข้างดี

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (20 เม.ย.) นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯยังมีลุ้นแกว่งขึ้นได้ หากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ไม่แย่ลงไปอีก พร้อมให้แนวรับ 1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580 จุด

ด้านนายชัยยศ กล่าวว่า พรุ่งนี้ตลาดฯคงจะรีบาวน์ได้ต่อ โดยมีแนวต้าน 1,580 จุด ส่วนแนวรับ 1,560 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 4,515.39 ล้านบาท ปิดที่ 63.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท

DELTA มูลค่าการซื้อขาย 3,557.66 ล้านบาท ปิดที่ 399.00 บาท เพิ่มขึ้น 27.00 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,791.62 ล้านบาท ปิดที่ 137.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท

SAWAD มูลค่าการซื้อขาย 2,030.46 ล้านบาท ปิดที่ 83.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท

CPF มูลค่าการซื้อขาย 2,007.48 ล้านบาท ปิดที่ 29.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 เม.ย. 64)

Tags: ,
Back to Top