นายกฯ ตรวจความพร้อมจุดฉีดวัคซีนโควิดเซ็นทรัลลาดพร้าว เล็งเปิดเพิ่มอีก

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยตรวจเยี่ยมสถานที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกโรงพยาบาล ณ บริเวณชั้น 3 sky Hall ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดจุดให้บริการฉีดวัคซีนนอกสถานพยาบาลวันนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน รวมถึงโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และ โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยสิ่งสำคัญคือจะต้อง ทำลายความหวาดวิตกและความกลัวในการฉีดวัคซีนของประชาชนให้ได้ พร้อมยืนยันว่า วัคซีนที่นำเข้ามีการตรวจสอบมาตรฐานอย่างเข้มงวด ซึ่งทั้งในเดือนหน้าที่วัคซีนจะทยอยเข้ามา แม้จะมีผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนถือว่ามีสัดส่วนที่น้อยมาก

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทย ไปหารือร่วมกันว่าจะทำอย่างไรให้เชิญชวน ชักจูงให้ประชาชนมาร่วมมือกันฉีดวัคซีนใหม้มากขึ้น เพราะตอนนี้ยอมรับว่า มีข่าวที่บิดเบือนข้อเท็จจริงมากเหลือเกิน

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า วันนี้เราต้องเดินหน้าไปให้ได้ ซึ่งการจัดหาและการฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ และขอให้ติดตามข้อมูลที่ถูกต้อง ข่าวที่ไม่จริงอย่าแชร์ต่อ ขอให้พยามฟังข้อมูลที่เป็นเรื่องจริงจากทางสาธารณสุข ขอให้ทุกคนช่วยกันเพราะนี้คือทีมประเทศไทย

นายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกคนช่วยกันรณรงค์การฉีดวัคซีน แม้ว่าในเดือนนี้จะมีวัคซีนที่จำกัด แต่ในเดือนหน้าจะทยอยมาเรื่อยๆ ต้องชื่นชมกระทรวงสาธารณสุขที่พยามบริหารจัดการวัคซีนอย่างเต็มที่ และยี่ห้ออื่นๆจะเข้ามาช่วงปลายปี โดยจะร่วมมือกับภาคเอกชนด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อนาคตอาจจะปรับปรุงตามหน้างานสำหรับผู้ที่จะเข้ามาฉีดวัคซีน ที่บางคนอาจวอล์คอินเข้ามาแล้วไม่ได้ฉีด เพราะช่วงนี้ยังต้องให้ลงทะเบียนกลุ่มเสี่ยงก่อน ทั้งครู เจ้าหน้าที่ขนส่ง บริกรร้านอาหาร ซึ่งจะมีการปรับตามสถานการณ์ในอนาคต

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในช่วงเวลานี้ประชาชนอาจต้องเดือดร้อนจากมาตราการของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ที่กำหนดเวลาในการสั่งเปิดปิดร้านอาหารเพื่อความปลอดภัย แต่เร็วๆนี้อาจมีมาตรการผ่อนคลายให้กับร้านค้า ผู้ประกอบการ ส่วนเรื่องการเยียวยาได้มอบให้กระทรวงแรงงาน เข้าไปเยียวยาลูกจ้างตามมาตรา33 แม้จำนวนเงินจะไม่มาก แต่รัฐก็จะจัดสรรไปดูแลให้

พล.อ.ประยุทธ์ เชื่อมั่นว่า หลังโควิด 19 คลี่คลาย ประเทศไทยจะดีขึ้นกว่าเดิม เพราะตลอดเวลารัฐบาลทำทุกอย่าง ไม่เฉพาะแก้ปัญหาเรื่องโควิด19 เท่านั้น แต่เตรียมการเรื่องเศรษฐกิจวันข้างหน้า ควบคู่ไปด้วย ทั้งสร้างการลงทุนเพื่อหารายได้เข้าประเทศ ซึ่งเวลานี้ต้องการความเป็นหนึ่งเดียวของพวกเรา เพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้า นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะทำให้ดีที่สุดในทุกๆเรื่อง รวมถึงเรื่องวัคซีน ต้องฟังหมอ ฟังภาคธุรกิจ ส่วนเรื่องอุตสาหกรรมการลงทุน วันข้างหน้า จะดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งการลงทุนใหม่ใหม่

ทั้งนี้ สำหรับสถานที่ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล หรือหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นความร่วมมือระหว่างกรุงเทพฯร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและโรงพยาบาลรามาธิบดี โดยมีความพร้อมในการให้บริการวัคซีนตามขั้นตอนต่างๆอย่างครบถ้วนอาทิ จุดลงทะเบียน จุดวัดน้ำหนักส่วนสูง จุดวัดความดัน จุดฉีดวัคซีนและจุดพักสังเกตอาการหลังฉีด โดยสามารถให้บริการ 1,000 คน/วัน ตั้งแต่เวลา 08:00 น – 17:00 น โดยกลุ่มเป้าหมายแรกคือ กลุ่มบุคลากรด่านหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค

โดยจะมีจุดบริการดังกล่าว 14 แห่งทั่วกรุงเทพฯ ประกอบด้วย เซ็นทรัลลาดพร้าว ร่วมกับโรงพยาบาลรามาธิบดี /เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ร่วมกับโรงพยาบาลวชิรพยาบาล /ไอคอนสยามร่วมกับโรงพยาบาลศิริราช /True Digital Park ร่วมมือกับโรงพยาบาลศิริราช/สามย่านมิตรทาวน์ ร่วมมือกับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์/SCG บางซื่อ ร่วมกับกรมการแพทย์/เดอะมอลล์บางกะปิ ร่วมกับโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี/เดอะมอลล์บางแค ร่วมกับมหาวิทยาลัยสยาม โดยคณะแพทยศาสตร์และคณะพยาบาลศาสตร์/ธัญญาพาร์ค ร่วมมือกับโรงพยาบาลในเครือบางปะกอก/เอเชียทีค ร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก/โรบินสันลาดกระบัง ร่วมมือกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก/โลตัส มีนบุรีร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก/บิ๊กซีบางบอน ร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก/PTT Station พระราม 2 ร่วมกับโรงพยาบาลในเครือบางปะกอก

นอกจากนี้ ทางสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้เสนอสถานที่ฉีดวัคซีนเพิ่มเติมอีก 11 แห่งโดยอยู่ระหว่างการดำเนินการเตรียมความพร้อมด้านอุปกรณ์และบุคลากร โดยหากเปิดสถานบริการครบทั้ง 25 แห่ง แต่ละแห่งจะมีศักยภาพการให้บริการฉีดวัคซีนอยู่ที่ 1,000 -3,000 คนต่อวัน รวมสามารถให้บริการได้ 30,000 ถึง 50,000 คนต่อวัน ซึ่งทุกแห่งจะเปิดให้บริการต่อเนื่อง 7 เดือน เพื่อให้ประชาชนได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 พ.ค. 64)

Tags: , , , , , , , , ,
Back to Top