ก.ล.ต.ปรับเกณฑ์การแยกตำแหน่ง ประธานกรรมการ-ผู้บริหารสูงสุด บจ.เพิ่มความยืดหยุ่น

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ตามที่ ก.ล.ต. ได้ออกหลักเกณฑ์ให้บริษัทที่เสนอขายหุ้นต่อประชาชนครั้งแรก (Initial Public Offering: IPO) หรือ เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชน (Secondary Public Offering: SPO) ต้องแยกบุคคลที่ดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการ และ ผู้บริหารสูงสุด ออกจากกัน ซึ่งเป็นไปตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทจดทะเบียน (corporate governance) โดยเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 64

ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นแก่บริษัทจดทะเบียน และสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก.ล.ต. จึงปรับปรุงหลักเกณฑ์สำหรับการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทจดทะเบียน (SPO) โดยผ่อนปรนให้ผู้ดำรงทั้งสองตำแหน่งดังกล่าวเป็นบุคคลเดียวกันได้ สำหรับบริษัทที่เข้าจดทะเบียนก่อนวันที่ 1 ม.ค.64 ไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงประธานกรรมการหรือผู้บริหารสูงสุด หรือเมื่อครบวาระดำรงตำแหน่ง แล้วแต่กรณีใดจะถึงก่อน มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.64

นอกจากนี้ ในกรณีที่พ้นระยะเวลาผ่อนปรน แต่บริษัทยื่นคำขอเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนยังไม่สามารถแยกผู้ดำรงทั้งสองตำแหน่งให้เป็นคนละคนกันได้ บริษัทจะต้องเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม 2 หัวข้อ ได้แก่ มาตรการหรือกลไกในการถ่วงดุลอำนาจระหว่างคณะกรรมการและฝ่ายจัดการ และแผนดำเนินการที่จะแยกบุคคลที่ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการออกจากผู้บริหารสูงสุดของบริษัท

“ก.ล.ต. สนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนจัดโครงสร้างการบริหารจัดการของบริษัท ให้มีกลไกหรือมาตรการการถ่วงดุลอำนาจระหว่างคณะกรรมการและฝ่ายจัดการ ตามหลักปฏิบัติด้าน corporate governance ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นต่อตลาดทุนไทยให้มากขึ้น”

น.ส.รื่นวดี กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ค. 64)

Tags: , , , , , ,
Back to Top