ปธน.เกาหลีใต้หวังหารือประเด็นเกาหลีเหนือในการประชุมสุดยอดผู้นำกับสหรัฐ

ประธานาธิบดีมูน แจอินของเกาหลีใต้ แสดงความหวังที่จะใช้เวทีการประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ ซึ่งจะมีขึ้นเป็นครั้งแรกในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือถึงประเด็นเกี่ยวกับเกาหลีเหนือหลังจากที่ต้องชะงักไปก่อนหน้านี้ รวมถึงเร่งให้รัฐบาลสหรัฐดำเนินการในประเด็นนี้เร็วยิ่งขึ้น

ปธน.มูนมีกำหนดเยือนสหรัฐเป็นเวลา 4 วัน โดยจะเดินทางถึงกรุงวอชิงตันในวันที่ 20 พ.ค.นี้ สำหรับการเยือนสหรัฐในครั้งนี้ ปธน.มูนจะเข้าร่วมประชุมสุดยอดกับปธน.ไบเดน นอกจากนี้ ยังมีกำหนดพบปะกับนางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐและผู้นำสภาคองเกรสคนอื่นๆ ด้วย

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีใต้ระบุว่า ท่าทีของปธน.ไบเดนต่อเกาหลีเหนือเป็นการส่งสัญญาณที่ดี ซึ่งอาจจะปูทางไปสู่การกลับมาเจรจากันอีกรอบ

“เราเชื่อว่า นี่อาจเป็นความพยายามอย่างจริงจังในการเริ่มต้นเจรจา ซึ่งบางทีทั้งสองฝ่ายอาจพูดคุยกันซึ่งหน้าได้” เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ และเพิ่มเติมว่า “แน่นอน เราหวังว่าการเจรจาจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า และจะทำทุกวิถีทางเพื่อส่งเสริมให้เกิดการเจรจา”

ทางด้านนายแอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐเปิดกว้างสำหรับแนวทางทางการทูต แต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเกาหลีเหนือว่าต้องการที่จะเข้าร่วมตามแนวทางการปลดอาวุธนิวเคลียร์หรือไม่

ก่อนหน้านี้ นายบลินเคนเคยแสดงความหวังว่า เกาหลีเหนือจะกลับมาสู่โต๊ะการเจรจาเพื่อหาทางออกในการยกเลิกใช้ขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ โดยระบุว่า รัฐบาลของปธน.ไบเดนแสดงเจตจำนงอย่างชัดแจ้งว่า สหรัฐจะใช้ “แนวปฏิบัติทางการทูต” เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว แตกต่างกับยุคของอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เน้นรูปแบบการต่อรอง

เจ้าหน้าที่ของเกาหลีใต้ยังรู้สึกยินดีที่รัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐต้องการทบทวนนโยบาย ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การปฏิบัติตามขั้นตอนทางการทูตเพื่อลดแรงตึงเครียด พร้อมทั้งเดินหน้าเพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุดในการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

อย่างไรก็ดี ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ความท้าทายต่างๆ ต่อเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศ ตลอดจนวิกฤตด้านนโยบายต่างประเทศ รัฐบาลของปธน.ไบเดนจึงยังไม่ได้ส่งสัญญาณที่จะให้ความสำคัญในประเด็นเกาหลีเหนือเป็นสิ่งแรก ซึ่งอาจบดบังความหวังในการบรรลุเจตนารมณ์ของปธน.มูน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 พ.ค. 64)

Tags: , , , , ,
Back to Top