พาณิชย์ กำชับโรงงานผลิตถุงมือยางในประเทศต้องมีเพียงพอ ราคาสอดคล้องต้นทุน

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับสมาคมผู้ผลิตถุงมือยางไทย, โรงงานผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่, สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.), องค์การเภสัชกรรม (อภ.), สมาคมโรงพยาบาลเอกชน, สมาคมร้านขายยา และสมาคมเภสัชกรรมชุมชน เพื่อติดตามสถานการณ์ ปริมาณ และราคาถุงมือยาง (ผลิตจากยางธรรมชาติ) ในประเทศ

พบว่า กำลังผลิตถุงมือยางในประเทศสามารถผลิตได้กว่า 60,000 ล้านชิ้น/ปี (30,000 ล้านคู่) ในขณะที่ความต้องการใช้ในประเทศประมาณ 3,500 ล้านชิ้นต่อปี แบ่งเป็น ถุงมือยางสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ประมาณ 2,000 ล้านชิ้น/ปี และเป็นถุงมือยางที่จำหน่ายทั่วไปประมาณ 1,500 ล้านชิ้น/ปี โดยโรงงานยืนยันว่ามีปริมาณถุงมือยางเพียงพออย่างแน่นอน ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลจากสมาคมร้านขายยาและสมาคมเภสัชกรรมชุมชน ที่แจ้งว่าขณะนี้ปริมาณสินค้ามีเพียงพอและสามารถสั่งซื้อได้ตามปกติ แต่ความต้องการก็ลดลง เนื่องจากผู้บริโภคเปลี่ยนไปใช้ถุงมือประเภทพลาสติก ซึ่งใช้สะดวกและประหยัดกว่า

สำหรับด้านราคาจำหน่ายถุงมือยางที่ปรับสูงขึ้นนั้น สมาคมผู้ผลิตถุงมือยางไทย ชี้แจงว่า ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความต้องการสั่งซื้อถุงมือยางจากประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้ราคาวัตถุดิบที่เป็นยางธรรมชาติปรับสูงขึ้น เป็นผลดีต่อทั้งชาวสวนยาง และนำรายได้เข้าประเทศเพิ่มขึ้น แต่ยืนยันว่าราคาจะไม่มีการปรับสูงขึ้น โดยราคาจะปรับลดลงตามต้นทุนวัตถุดิบ

อย่างไรก็ดี เพื่อให้มั่นใจว่าบุคลากรทางการแพทย์จะมีถุงมือยางไว้ใช้ และมีสำรองอย่างเพียงพอกับสถานการณ์ปัจจุบัน จึงขอให้โรงงานผู้ผลิตจัดส่งถุงมือยางให้กับองค์การเภสัชกรรมในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนนี้ จำนวน 120 ล้านชิ้น และให้เตรียมสำรองพร้อมส่งมอบอีกเดือนละ 40 ล้านชิ้น โดยในส่วนโรงพยาบาลเอกชนให้จัดส่งถุงมือยางตามปริมาณที่ต้องการอย่างเต็มที่ รวมทั้งให้กระจายไปยังร้านขายยาและร้านค้าต่างๆ ในประเทศเพิ่มขึ้น และโรงงานผู้ผลิตต้องกำหนดราคา ถุงมือยางให้สอดคล้องกับราคาวัตถุดิบ

พร้อมกันนี้ จะได้ตั้งกลุ่มประสานงานระหว่างสมาคมผู้ผลิตถุงมือยางไทย สมาคมโรงพยาบาลเอกชน สมาคมร้านขายยา สมาคมเภสัชกรรมชุมชน และกรมการค้าภายใน เพื่อประสานการกระจายถุงมือยางให้มีเพียงพอ และตรวจสอบราคาต้นทาง เพื่อไม่ให้เกิดการฉวยโอกาสขึ้นราคา ซึ่งสมาคมผู้ผลิตถุงมือยางไทยและโรงงานผู้ผลิตถุงมือยางยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่

นายวัฒนศักย์ กล่าวว่า กรมการค้าภายในจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหากสถานการณ์ปริมาณและราคาจำหน่ายถุงมือยางยังไม่ดีขึ้น ก็จะใช้มาตรการเข้มข้นต่อไป และหากพบว่าผู้ค้าส่งค้าปลีกมีการจำหน่ายแพงเกินสมควร อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 29 แห่ง พรบ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 พ.ค. 64)

Tags: , , , , , , , , ,
Back to Top