หุ้นไทยเช้านี้แนวโน้มอ่อนไหวตาม ตปท.กังวลเงินเฟ้อ-คริปโทฯกดดัน-โควิดยังหนัก

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้อ่อนไหวหลังตลาดต่างประเทศสวิงตัว โดยตลาดยุโรปร่วงแรงกังวลเงินเฟ้อสูง อีกทั้งรับแรงกดดันจากสกุลเงินคริปโทฯเหวี่ยงมาก ส่งผลให้เกิดการโยกเงินย้ายเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยก่อน อย่างทองคำ ตลาดบ้านเราก็คงเผชิญแรงขายออกมาต่อเนื่อง หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ยังคุมไม่อยู่ ทำให้ต่างชาติยังไม่กลับมา ตลาดฯคงเป็นลักษณะการเล่นเก็งกำไรหุ้นเล็กไปก่อน ให้แนวรับ 1,540 แนวต้าน 1,565 จุด

นายเกษม พันธ์รัตนมาลา กรรมการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คงอ่อนไหวหลังตลาดต่างประเทศสวิงตัวมาก โดยตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงไปมากจากความกังวลอัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการฟื้นตัวเศรษฐกิจ และเงินในระบบที่มีอยู่มาก อีกทั้งยังได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินคริปโทฯ มีแรงเหวี่ยงมากหลัง หลังรัฐบาลจีนสั่งห้ามทำธุรกรรมสกุลเงินคริปโทฯ และเตือนนักลงทุนไม่ให้เก็งกำไร ส่งผลให้เกิดการโยกเงินออกจากสินทรัพย์เสี่ยงย้ายเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยก่อน อย่างทองคำ เป็นต้น

ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราคงจะยังเผชิญแรงขายทำกำไรออกมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ยังไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศได้ ทำให้นักลงทุนต่างชาตัยังไม่กลับมาลงทุน ตลาดฯคงจะเป็นลักษณะการเล่นเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็กไปก่อน

พร้อมให้แนวรับ 1,540 จุด ส่วนแนวต้าน 1,565 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (19 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,896.04 จุด ลดลง 164.62 จุด (-0.48%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,115.68 จุด ลดลง 12.15 จุด (-0.29%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,299.74 จุด ลดลง 3.90 จุด (-0.03%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 10.08 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 168.95 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 180.32 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (19 พ.ค.) 1,562.24 จุด ลดลง 4.56 จุด (-0.29%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,419.64 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 พ.ค.64
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (19 พ.ค.) ปิด 63.36 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 2.13 ดอลลาร์ หรือ 3.3%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (19 พ.ค.) อยู่ที่ 1.62 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.43 คาดกรอบวันนี้ 31.35-31.50 จับตา Flow ไหลออก-ตัวเลขศก.สหรัฐ
  • “การบินไทย”เผยเจ้าหนี้ไฟเขียว 91% โหวตแผนฟื้นฟู ตั้ง 5 ผู้บริหารแผน “ปิยะสวัสดิ์-พรชัย-ไกรสร-ศิริ-ชาญศิลป์” ยื่นศาลล้มละลายกลางพิจารณา 28 พ.ค.นี้ “คลัง-ธ.กรุงเทพ-สหกรณ์” ส่งผู้แทนนั่งบอร์ดเจ้าหนี้ สคร.เผยเจ้าหนี้ชงรัฐช่วยเหลือ ขอสิทธิประโยชน์การบินเหมือนเดิม
  • “ก้องเกียรติ” แนะนักลงทุนกระจายพอร์ตลงทุนหลัง “ตลาดหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ คริปโตฯ” ผันผวนหนัก พร้อมเตรียมปรับเป้ารายได้ปีนี้เพิ่ม จากวอลุ่มซื้อขายเฉลี่ยต่อวันพุ่งระดับแสนล้านต่อวัน
  • กกร.รับเศรษฐกิจเฉา จำใจปรับจีดีพีปีนี้คาดโตเหลือ 0.5-2% เซ่นผลกระทบโควิดระลอกใหม่รุนแรง เสนอรัฐเพิ่มวงเงินคนละครึ่งเป็น 6,000 บาท หวังผลกระตุ้น ศก.เป็น 1.8 แสนล.
  • นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคาร และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยทิศทางตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลปี 64 ว่า แม้ปีนี้ยอดขายที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลโดยรวมจะเพิ่มขึ้น 4% คิดเป็น 69,996 หน่วย มูลค่ากว่า 310,000 ล้านบาท และมีผู้ประกอบการเปิดขายโครงการใหม่ลดลง 10% เหลือ 59,600 หน่วย มูลค่า 308,400 ล้านบาท แต่กลับพบว่าจำนวนที่อยู่อาศัยเหลือค้างสต๊อกในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ยังคงมีปริมาณสูงถึง 174,773 หน่วย โดยคิดเป็นมูลค่าประมาณ 853,400 ล้านบาท

หุ้นเด่นวันนี้

  • ADD (บมจ.แอดเทค ฮับ) เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยราคาขาย IPO 11.00 บาท/หุ้น กลุ่มบริษัทของ ADD ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ให้บริการสนับสนุนระบบการให้บริการดิจิทัลคอนเทนต์ (Digital Content Support) และพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (Digital Solution) แก่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยจัดหาและจัดการข้อมูล พัฒนาและดูแลระบบเพื่อให้การให้บริการดังกล่าวของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แก่ผู้ใช้โทรศัพท์เป็นไปอย่างราบรื่น
  • SINGER (กรุงศรี) “ซื้อ”เป้า IAA Consensus 50 บาท เป็นตัวเต็งเข้าคำนวน SET100 รอบใหม่ แนวโน้มกำไร Q2/64 โตต่อเนื่อง ธุรกิจจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้าสู่ High season ส่วนธุรกิจจำนำทะเบียนรถ (C4C) เติบโตตามฐานสินเชื่อที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
  • TOP (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ”เป้า 74 บาท มีมุมมองเชิงบวกระยะยาวต่อการลงทุนโครงการ CFP การลงทุนธุรกิจปลายน้ำด้านโอเลฟินในต่างประเทศ ขณะที่ระยะสั้นคาดได้อานิสงส์จากค่าการกลั่นที่ฟื้นตัว คาดผลการดำเนินงานปี 2564 พลิกมีกำไร 1.36 หมื่นลบ.
  • BCP (ทรีนีตี้) “ซื้อ”เป้า 32 บาท ยังคงประมาณการกำไรปกติไม่รวม stock gain ที่ 1.4 พันล้านบาท โดยเชื่อว่าค่าการกลั่นจะเริ่มฟื้นตัวเด่นชัดใน H2/64 หลังจากที่หลายประเทศเริ่มมีการฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และหลายประเทศเริ่มให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนบินข้ามประเทศเพื่อการท่องเที่ยวได้แล้ว พร้อมคาดว่า Q2/64 Operating ของบริษัทอาจจะยังขาดทุนถึงมีกำไรเล็กน้อย โดยธุรกิจโรงกลั่นกลับมา Operate ได้ปกติแล้ว แต่กลุ่มธุรกิจการตลาดได้รับผลกระทบจากที่มี WFH ทำให้การใช้น้ำมันลดลง ในขณะที่ธุรกิจพลังงานน่าจะดีขึ้นจากโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำประเทศลาวที่มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นจากฝนที่ตกมาเร็ว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ค. 64)

Tags: , , , , , ,
Back to Top