เอเปกคาดจีดีพีปีนี้โต 6.3% รับอานิสงส์เปิดเศรษฐกิจ-ระดมฉีดวัคซีนโควิด

กลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกหรือ เอเปก (APEC) เปิดเผยรายงานคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) รวมของประเทศสมาชิก 21 ชาติ จะขยายตัว 6.3% ในปี 2564 โดยได้แรงหนุนจากการทยอยเปิดเศรษฐกิจและการรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในประเทศต่างๆ โดยเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่หดตัวลง 1.9% ในปี 2563

หน่วยสนับสนุนนโยบายของเอเปกระบุว่า GDP จะถูกผลักดันโดยอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นหลังจากที่การใช้จ่ายเป็นไปอย่างซบเซาในปีที่ผ่านมา แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังไม่เท่าเทียมกัน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากความแตกต่างในการเข้าถึงและปริมาณวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในภูมิภาค

รายงานระบุว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มเอเปกจะดำเนินต่อไปในปี 2565 และ 2566 แต่ในอัตราที่ชะลอลงที่ 4.4% และ 3.4% ตามลำดับ

เดนิส ฮิว ผู้อำนวยการหน่วยสนับสนุนนโยบายของเอเปกระบุว่า “เอเปกจะยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างมาก ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่การว่างงานที่เป็นผลจากโรคระบาดและการคาดการณ์เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในปีนี้อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากกว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภค”

เอเปกเปิดเผยรายงานดังกล่าวก่อนการประชุมออนไลน์ของบรรดารัฐมนตรีการค้ากลุ่มเอเปกในวันที่ 5 มิ.ย.นี้

สำหรับสมาชิกเอเปก 21 ประเทศนั้นประกอบด้วยออสเตรเลีย แคนาดา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ฮ่องกง นิวซีแลนด์ สหรัฐ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ไทย ไต้หวัน ชิลี เม็กซิโก ปาปัวนิวกินี เปรู รัสเซีย และเวียดนาม

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 พ.ค. 64)

Tags: , , ,
Back to Top