SSP เข้าซื้อโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาด 9.9 MW มูลค่า 500 ลบ.รับรู้รายได้-กำไรทันที

นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาดกำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ ด้วยการซื้อหุ้นทั้งหมดในบริษัท ยูนิ พาวเวอร์ เทค จำกัด (ยูพีที) จากผู้ถือหุ้น รวมถึงสิทธิในการรับชำระหนี้เงินกู้ในส่วนที่ยูพีทียังคงค้างชำระแก่ผู้ถือหุ้น รวมมูลค่าลงทุน 500 ล้านบาท

บริษัทคาดว่าจะเข้าทำรายการซื้อหุ้นยูพีที 119,070 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1,000 บาท คิดเป็นสัดส่วน 49% ของทุนชำระแล้วทั้งหมด ภายในเดือน ก.ค.64 และคาดจะซื้อหุ้นยูทีพี 123,930 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1,000 บาท คิดเป็นสัดส่วน 51% ของทุนชำระแล้วทั้งหมด ภายในเดือน พ.ค.65 รวมจำนวน 243,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 100%

สำหรับผู้ถือหุ้นของยูพีที ได้แก่ บริษัท แอ๊บโซลูท โปรดักส์ จำกัด, บริษัท เวอร์ติคอล โฮลดิ้งส์ จำกัด, นายวิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล, นายธนวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล, นายปิยวัฒน์ ไกรพิสิทธิ์กุล และ นางสาวธัณฐภรณ์ ไกรพิสิทธิ์กุล

อนึ่ง ยูพีที ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานชีวมวล โดยดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดกำลัง 9.9 เมกกะวัตต์ ตั้งอยู่ ณ ตำบลสี่คิ้ว อำเภอสี่คิ้ว จังหวัดนครราชสีมา เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในวันที่ 24 พ.ค.62 มีระยะเวลาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็นจำนวน 20 ปี

บริษัทคาดว่าการลงทุนในครั้งนี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อบริษัทฯและผู้ถือหุ้น เนื่องจากเป็นการลงทุนตามเป้าหมายของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นการขยายการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนครบวงกจร ทั้งจากพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และชีวมวล โดยโครงการดังกล่าวมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับภาครัฐและเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว มีผลประกอบการที่ดี ลดความเสี่ยงจากการพัฒนาโครงการไม่สำเร็จ และสามารถรับรู้รายได้ทันที อายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้าคงเหลือประมาณ 18 ปี ประกอบกับนโยบายภาครัฐให้การสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนอื่นอย่างเต็มที่

“มั่นใจว่าการเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวลในครั้งนี้จะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ในเบื้องต้นได้มีการประเมิน IRR แล้ว คาดว่าจะสามารถให้ผลตอบแทนสูงถึง 10% และคาดจะถึงจุดคุ้มทุนภายใน 7 ปี ราคารับซื้อไฟฟ้ารูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ที่ 4.50 บาท/หน่วย โดยขณะนี้เหลือระยะเวลาสัมปทานอีก 18 ปี และการลงทุนในครั้งนี้จะทำให้ SSP สามารถรับรู้รายได้และกำไรจากการจำหน่ายไฟฟ้าเข้ามาทันที”

นายวรุตม์ กล่าว

การเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวลของ SSP เป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทที่ต้องการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนแบบครบวงจร อีกทั้งบริษัทยังคงมองหาการลงทุนในทุกรูปแบบที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าต่อไป และจากการลงทุนในครั้งนี้ มั่นใจว่าจะผลักดันกำลังการผลิตไฟฟ้าในปีนี้ทะลุ 200 เมกะวัตต์ได้ โดยในช่วงไตรมาส 3-4 ปีนี้ เตรียมที่จะ COD โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ และวินด์ฟาร์มในประเทศเวียดนาม กำลังการผลิต 48 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันกำลังการผลิตอยู่ที่ 143 เมกะวัตต์

ทั้งนี้ บริษัทวางเป้าหมายในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า กำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 400 เมกะวัตต์ ผลักดันผลการดำเนินงานสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 มิ.ย. 64)

Tags: , , , , ,
Back to Top