PRINC ปรับโครงสร้างผู้บริหารวางเป้าปี 65 พลิกกำไรเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวผลลงทุน

นายสาธิต วิทยากร ประธานคณะกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บมจ.พริ้นซิเพิล แคปิตอล (PRINC) ประกาศปรับโครงสร้างองค์กร โดยแต่งตั้ง นายธานี มณีนุตร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ขึ้นดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) และ นางอัจฉรา รัตนพันธุ์ศรี ดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและบริหารทั่วไป (CFAO) มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.65 เป็นต้นไป

PRINC เป็นผู้ดำเนินธุรกิจหลักด้านธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน การบริหารจัดการโรงพยาบาลเอกชนและธุรกิจสุขภาพ ในนาม โรงพยาบาล ‘เครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์’ โดยในปัจจุบัน มีเครือข่ายโรงพยาบาลทั้งหมด 13 แห่งใน 11 จังหวัดทั่วประเทศ คลินิกปฐมภูมิ 17 แห่งทั่ว กทม. และ บริษัทย่อย ต่างๆ อาทิ PRINC NKG ธุรกิจดูแลและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้สุงอายุ ฯลฯ

นายธานี กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของโอไมครอน ถือเป็นความท้าทายอีกระลอก ล่าสุดระดมสรรพกำลังทั้งบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลในเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ ขยายเตียงรองรับ พร้อมกับเสริมศักยภาพทางการแพทย์ เชื่อมโยงกันในเครือโรงพยาบาลฯ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การระบาดในพื้นที่ที่เครือโรงพยาบาลตั้งอยู่ เพื่อพร้อมดูแลผู้ป่วยโควิด-19 โดยเฉพาะตามต่างจังหวัดที่มีแนวโน้มอัตราผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ กลยุทธ์สำคัญในระยะกลางถึงยาวนั้น ยังคงเสริมศักยภาพทางการแพทย์ เสริมทีมแพทย์และบุคลากรการแพทย์สู่เมืองรอง พร้อมผลักดันนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ผสมผสานทางการแพทย์ เพื่อดูแลผู้ป่วยให้ครอบคลุมและเกิดประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยสูงสุด โดยยึดปณิธานของนายแพทย์พงษ์ศักดิ์ วิทยากร ผู้ก่อตั้งฯ มุ่งเป็นองค์กรสร้างบุคลากรให้มีจิตใจของความเป็นผู้ให้ พร้อมขยายบริการทางการแพทย์เพื่อดูแลชุมชมและสังคม สร้างการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน (Creating Shared Value) และตั้งเป้าเป็นเครือโรงพยาบาลใส่ใจชุมชนและสิ่งแวดล้อม (Society and Green Hospital) ในปี 65 นี้ด้วย

PRINC ยังคงเดินหน้าพร้อมพันธมิตรเดิมและเปิดรับพันธมิตรใหม่ เพื่อร่วมขยายโรงพยาบาลจากปัจจุบัน 13 แห่ง ให้ครบ 20 แห่งในปี 2566 และคลินิกใกล้บ้านใกล้ใจ ซึ่งเป็นคลินิกปฐมภูมิในเขต กทม. จากปัจจุบัน 17 แห่ง เพิ่มเป็น 20 แห่ง ภายในปี 2565 และยังคงเป้าหมายขยายเป็น 100 แห่งภายในปี 67

ส่วนเป้าหมายการเติบโตของผลประกอบการทั้งปี 65 ตั้งเป้ากำไรสุทธิจะเป็นบวกได้ หลังจากก่อนหน้านี้ 9 เดือนแรกของปี 64 พลิกมามีกำไรแล้วหลังผ่านพ้นระยะเวลาการลงทุนของธุรกิจโรงพยาบาลไปแล้ว ส่วนการเติบโตของผลการดำเนินงาน Hospital คาดว่า EBITDA ขยับดีขี้น เฉลี่ยที่ 40% ตามภาพรวมของธุรกิจโรงพยาบาลที่ยังคงขยายตัวได้ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจใหม่ด้าน Health & Wellness และธุรกิจสุขภาพที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่เพิ่มเติมในปีนี้อีกด้วย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ม.ค. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top