ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวก นักลงทุนจับสัญญาณแบงก์ชาติทั่วโลกเล็งขึ้นดบ.

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อของนักลงทุน ขณะจับตาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลก

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,451.34 จุด เพิ่มขึ้น 117.82 จุด หรือ +0.42%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,274.75 จุด เพิ่มขึ้น 56.72 จุด หรือ +0.23% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,541.89 จุด เพิ่มขึ้น 0.22 จุด หรือ +0.006%

ทาปาส สทริกแลนด์ ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐศาสตร์และการตลาดของ National Australia Bank ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกยังคงปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีแนวโน้มว่าธนาคารกลางจะใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดให้เร็วขึ้น เขาระบุว่า “สำหรับการกำหนดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง ขณะนี้ตลาดหลายแห่งได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเต็มตัวจากแนวโน้มที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปี 2565 ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ร่นระยะเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาเป็นเดือนก.ย. ยกเว้นธนาคารกลางจีนที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.10% ท่ามกลางแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน”

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาคที่เปิดเผยไปแล้วนั้น ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดย ANZ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคออสเตรเลียร่วงลง 7.6% ในสัปดาห์ที่แล้ว แตะที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2563 เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่พุ่งขึ้นทำให้ผู้บริโภคหลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคลดน้อยลง และส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน

ข้อมูลของ ANZ บ่งชี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคออสเตรเลียในสัปดาห์ที่แล้ว ร่วงลงสู่ระดับต่ำกว่าเมื่อครั้งที่ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาแพร่ระบาดและทำให้รัฐบาลต้องประกาศล็อกดาวน์

นักวิเคราะห์ของ CBA คาดการณ์ว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะส่งผลให้การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของออสเตรเลียลดลงกว่า 1% นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังได้ปรับลดคาดการณ์ตัวเลข GDP ไตรมาส 1 ของออสเตรเลียลงสู่ระดับ 1% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 2.3%

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น รวมถึงการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย.ของญี่ปุ่นในวันนี้

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ม.ค. 65)

Tags:
Back to Top