LPN คาดตลาดอสังหาฯปี 65 โต 5-20% รับปัจจัยหนุนเศรษฐกิจฟื้นแม้ยังมีโควิด

นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือ บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) กล่าวว่า แนวโน้มของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 65 ได้ปรับคาดการณ์จากเดิมที่ปลายปี 64 มองว่าจะเติบโต 15-20% มาเป็นอัตราการเติบโต 5-20% เป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธ์โอมิครอนทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ซึ่งจะกระทบต่อภาวะการค้าการลงทุนและห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ทั่วโลก รวมถึงเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกที่เป็นเครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและกำลังซื้อภายในประเทศ

ลุมพินี วิสดอม ประเมินภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 65 ภายใต้ 3 ความเป็นไปได้ (3-Scenarios) อ้างอิงจากการคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจในปี 65 ของธนาคารโลก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) รวมถึงความสามารถในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข

Base Case เป็นกรณีที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ภายในไตรมาส 1/65 ภาคการส่งออกเติบโตได้ 5-8% จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน เศรษฐกิจโลกเติบโต 3.6% ตามการคาดการณ์ของธนาคารโลก และเศรษฐกิจไทยเติบโตที่ 3.6-4% ตามการคาดการณ์ของ ธปท.และสภาพัฒน์ คาดว่าตลาดอสังหาฯ ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล จะเติบโตในอัตรา 10-20% โดยคาดว่าจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ 78,000-84,000 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 292,000-318,000 ล้านบาท

Worse Case เป็นกรณีที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ในครึ่งแรกของปี 65 จะกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยให้เติบโตต่ำกว่า 3% ภาคการส่งออกเติบโตต่ำกว่า 5% จำนวนนักท่องเที่ยวน้อยกว่า 5 ล้านคน และ เศรษฐกิจโลกเติบโตน้อยกว่า 3.6% จะทำให้ตลาดอสังหาฯ มีอัตราการเติบโต 5-10% โดยคาดว่าผู้ประกอบการจะชะลอแผนเปิดตัวโครงการใหม่มาอยู่ในครึ่งหลังของปี ทำให้จำนวนการเปิดตัวโครงการใหม่อยู่ที่ 66,000-78,000 หน่วย คิดเป็นมูลค่าประมาณ 278,000-292,000 ล้านบาท

Worst Case เป็นกรณีที่สามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในไตรมาส 4/65 ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจโลก ภาคการส่งออกและภาคการท่องเที่ยว และจะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตน้อยกว่า 2% ในปี 65 จึงประเมินว่าภาคอสังหาริมทรัพย์มีอัตราเติบโตอยู่ที่ 3-5% คาดว่าจะมีจำนวนโครงการเปิดตัวใหม่ 60,000-66,000 หน่วย คิดเป็นมูลค่าประมาณ 273,000-278,000 ล้านบาท

“ตลาดอสังหาฯ ปี 65 นอกจากจะเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงจากการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว หลังจากการเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลปีใหม่ แล้วยังต้องเผชิญกับภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงแตะระดับ 90% ของ GDP และความระมัดระวังในการอนุมัติสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของสถาบันการเงิน ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ ต้องปรับตัว และวางกลยุทธธุรกิจเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อและเพิ่มยอดขายอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ซื้อที่จะได้ซื้อที่อยู่อาศัยในระดับราคาที่เหมาะสม”

นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ม.ค. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top