แนวโน้มดัชนีหุ้นไทยเช้าแกว่งกรอบแคบ รอผลประชุมเฟดสัปดาห์หน้า-งบกลุ่มแบงก์

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในกรอบแคบๆ จากนักลงทุนรอดูการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า และการทยอยประกาศงบไตรมาส 4/64 ของธนาคารพาณิชย์ แต่ยังได้ปัจจัยบวกจากการเปิดเมือง ที่คาดจะหนุนต่อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวได้อยู่ ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนลบ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ ให้แนวรับที่ 1,645 จุด และแนวต้าน 1,665 จุด

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบีเอสที กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในกรอบแคบๆ เนื่องจากเป็นวันศุกร์สุดสัปดาห์แล้ว นักลงทุนก็น่าจะรอดูการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 25-26 ม.ค.นี้ รวมถึงการทยอยประกาศผลประกอบการในไตรมาส 4/64 ของหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ก็น่าจะทำให้มีแรงเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มแบงก์บางตัว

แต่อย่างไรก็ตามมองว่าการเปิดเมือง ก็น่าจะช่วยหนุนหุ้นท่องเที่ยวได้อยู่ ส่วนปัจจัยทางการเมืองก็เริ่มมีนัยสำคัญต่อตลาดมากขึ้น โดยให้จับตาดูว่าทิศทางการเมืองจะเป็นอย่างไร

สำหรับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงกว่า 300 จุดเมื่อคืนวาน (20 ม.ค.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ให้กรอบแนวรับไว้ที่ 1,645 จุด และแนวต้าน 1,665 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (20 ม.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,715.39 จุด ลดลง 313.26 จุด (-0.89%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,482.73 จุด ลดลง 50.03 จุด (-1.10%) และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,154.02 จุด ลดลง 186.23 จุด
    (-1.30%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ร่วงลง 368.57 จุด หรือ -1.33% , ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 8.31 จุด หรือ -0.23% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 54.76 จุด หรือ -0.22%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (20 ม.ค.) 1,656.96 จุด ลดลง 1.28 จุด, -0.08%
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,697.17 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 ม.ค.65
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (20 ม.ค.) ปิดที่ระดับ 86.90 ดอลลาร์/
    บาร์เรล ลดลง 6 เซนต์ หรือ 0.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (20 ม.ค.) อยู่ที่ 5.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.93 คาดกรอบวันนี้ 32.84-33.15 จับตาตัวเลขส่งออกไทยวันนี้-ประชุมเฟด
  • นายกฯลั่น “ไม่ยุบสภา ไม่ปรับครม.” เมิน “ธรรมนัส” ขน 21 ส.ส.พลังประชารัฐ ซบพรรคใหม่ สภาหอการค้า-สอท.จับตาการเมืองป่วนใกล้ชิด กังวลฉุดเสถียรภาพรัฐบาลง่อนแง่น กระทบเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวจากวิกฤติโควิดระบาด หวั่นมาตรการกระตุ้นขาดตอน ด้านโบรกเกอร์ผวาเงินทุนต่างชาติไหลออก ขณะที่ตลาดหุ้นรับข่าวเลือกตั้งล่วงหน้า
  • สมาคมภัตตาคารไทย ระบุ ศบค.ปลดล็อกให้ร้านอาหารนั่งดื่มได้ถึง 23.00 น. นับว่าเหมาะสม เชื่อช่วยธุรกิจร้านอาหารฟื้นตัวกลับมาได้ ศบค.เคาะขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 2 เดือน “ปรับมาตรการ” ลดระดับพื้นที่สีส้มเหลือ 44 จังหวัด เพิ่มพื้นที่สีเหลือง 25 จังหวัด และคงพื้นที่สีฟ้านำร่องท่องเที่ยว 8 จังหวัด เริ่ม 24 ม.ค.นี้ ปลดล็อก “เทสต์แอนด์โก” ทุกประเทศ เพิ่ม 2 จังหวัด “แซนด์บ็อกซ์” ชลบุรี ตราด
  • นายกฯประชุมด่วน “พลังงาน-พาณิชย์” หาทางตรึงราคาพลังงาน ลดภาระค่าครองชีพ ตรึงดีเซลไม่เกิน 30 บาท สั่งดูแลราคาน้ำมันปาล์มให้เหมาะสม “พลังงาน” เตรียมแผนรับมือใช้กองทุนน้ำมันอุ้มชง “คลัง” ลดภาษีสรรพสามิต แบ่งเบาภาระกองทุน “อาคม” ห่วงน้ำมันดันเงินเฟ้อเกิน 3%
  • อย.เผยมติที่ประชุม คกก.ควบคุมยาเสพติด ปลดล็อก “กัญชา” พ้นรายชื่อยาเสพติดให้โทษประเภท 5 แล้ว “อนุทิน” ยินดี ตอนนี้รอบอร์ด ปปส.พิจารณาเป็นด่านสุดท้าย วันที่ 25 ม.ค.นี้ ย้ำเรื่องกัญชาถูกกฎหมาย เป็นนโยบายรัฐบาล ต้องช่วยกันผลักดัน
  • เอกชนท่องเที่ยวเฮ หลังศบค.มีมติรีเทิร์นเปิดระบบรับนักท่องเที่ยวต่างชาติประเภท Test & Go เริ่ม 1 ก.พ.นี้ สมาคมโรงแรมไทยประเมินตลอดเดือน ก.พ.มียอดทัวริสต์ตบเท้าเข้าไทยดีดกลับที่ 2-3 แสนคน หวังตลาดต่างชาติฟื้นเครื่องยนต์ท่องเที่ยวและมู้ดเดินทางในประเทศ
  • เศรษฐกิจไม่สิ้นหวัง “อาคม” ปักหมุดจีดีพีไทยปี 65 โต 3.5-4.5% อานิสงส์ส่งออก-ท่องเที่ยวฟื้น รัฐตุนเงินลงทุนอีก 1.9 ล้านล้านบาท อัดฉีดเศรษฐกิจเต็มสูบ การันตีภาคการคลังยังแข็งแกร่ง

หุ้นเด่นวันนี้

  • MINT (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 35.00 บาท คาดกำไรปี 65 Turn around เร็วกว่ากลุ่มจากพอร์ตอาหารและโรงแรมในต่างประเทศที่ฟื้นตัวหลังโควิดคลี่คลาย รายได้เติบโตรับอัตราการใช้งานโรงแรม (Occupancy Rate) และรายได้ต่อห้อง (RevPAR) ที่ยปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งไทยและต่างประเทศ ประเมินกำไรสุทธิปี 64 ขาดทุน 1.5 หมื่น ลบ. และพลิกกลับมาเป็นกำไรในปี 65 ที่ 2.1พัน ลบ. ตามลำดับ
  • AMATA (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า 23.50 ได้ Sentiment บวก ภาครัฐเปิดรับชาวต่างชาติแบบ Test and Go ดึงนักธุรกิจและนักลงทุนเข้าไทยช่วยเพิ่มยอดขายที่ดิน ได้ประโยชน์จากธีมการย้ายฐานการผลิตหลังจีนเผชิญปัญหาวิกฤติพลังงานและยังมีความเสี่ยงจาก Trade war
  • NSL (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 23 บาท แนวโน้ม Q4/64 จะตัวฟื้นแรง +83% Q-Q, +10% Y-Y ตามการ Re-open และโดยเฉพาะปัญหา Supply Chain ที่หมดไป ส่งผลให้ทั้งรายได้และ Margin คาดฟื้นตัวอย่างมีนัยยะ คาดกำไรปี 64 +25% Y-Y และเร่งตัวปีหน้า +44% Y-Y ล่าสุดมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต หักล้างผลกระทบต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับขึ้นได้ ขณะที่ผลกระทบโอมิครอนเดือนม.ค.จำกัดมาก กอปรกับระยะถัดไปคาดจะเติบโตในกัมพูชาตาม 7-11 เช่นกัน
  • SCM-W1 เริ่มเทรดวันแรก 21 ม.ค.65 จำนวนหน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน 199,998,673 หน่วย
    อัตราการใช้สิทธิ (ใบสำคัญแสดงสิทธิ :หุ้นสามัญใหม่) 1 : 1 ราคาการใช้สิทธิ 9.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปี นับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (22 ธ.ค.64) วันใช้สิทธิครั้งแรก 21 มิ.ย.65 วันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 21 ธ.ค.66

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ม.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top