ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดขึ้นกว่า 200 จุด หลังกระแสคาดเฟดขึ้นดบ.ฉุดตลาดร่วงสัปดาห์ที่แล้ว

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้นกว่า 200 จุดช่วงเช้านี้ โดยบรรยากาศการซื้อขายฟื้นตัวขึ้นหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ณ เวลา 08.48 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้น 220 จุด หรือ +0.64% แตะที่ระดับ 34,377 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 400 จุดในวันศุกร์ (21 ม.ค.) และทำสถิติดิ่งลงเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2563 ส่วนตลอดทั้งสัปดาห์ที่แล้ว ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 4.6%, ดัชนี S&P500 ร่วงลง 5.7% และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 7.6%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากความกังวลที่ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ว่า “ดิฉันคิดว่าเฟดอยู่ในสถานะที่พร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทันทีที่โครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ยุติลง”

ถ้อยแถลงของนางเบรนาร์ถือเป็นการส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ที่ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 15-16 มี.ค.นี้ เนื่องจากคณะกรรมการเฟดได้ประกาศไว้ก่อนหน้าว่าจะเพิ่มการปรับลดวงเงินในโครงการ QE เป็นเดือนละ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ เริ่มตั้งแต่เดือนม.ค. 2565 โดยการปรับลดวงเงิน QE ของเฟดจะเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากเดิมเดือนละ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะส่งผลให้เฟดยุติการทำ QE ในเดือนมี.ค. 2565

ทางด้านนายเดวิด เมริเคิล นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจกดดันให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 4 ครั้งในปีนี้ โดยคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม, มิถุนายน, กันยายน และธันวาคม

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ม.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top