BANPU-BPP เข้าลงทุนธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในเวียดนาม 466 ลบ.

บมจ.บ้านปู (BANPU) เปิดเผยว่า บริษัท BRE Singapore Pte. Ltd. (BRES) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด (BANPU และ บมจ.บ้านปู เพาเวอร์ (BPP) ถือหุ้นฝ่ายละ 50%) ได้มีการลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น (SSA) เพื่อเข้าถือหุ้นจำนวน 49.04% ในบริษัท Solar Esco Joint Stock ในเวียดนาม มูลค่าการลงทุน 14.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า 466 ล้านบาท คาดว่าจะทำรายการซื้อขายหุ้นแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/65

Solar Esco Joint Stock เป็นผู้นำในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในประเทศเวียดนาม โดยให้บริการในการวางแผนพัฒนา ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา และให้บริการด้านวิศวกรรม จัดหา และก่อสร้าง (Engineering Procurement and Construction หรือ EPC) รวมทั้งให้บริการบำรุงรักษา ด้วยประสบการณ์อันยาวนานกว่าสิบปีกับคู่ค้าทางธุรกิจที่หลากหลาย ทั้งศูนย์การค้า, โรงงานอุตสาหกรรม และโกดังสินค้า โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 20.4 เมกะวัตต์และอยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 106 เมกะวัตต์

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BANPU เปิดเผยว่า การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการเสริมอัตราเร่งเพื่อก้าวสู่เป้าหมายที่จะมี EBITDA มากกว่า 50% จากธุรกิจพลังงานที่สะอาดขึ้นและเทคโนโลยีพลังงานภายในปี 68

“ตลอดช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา บ้านปูได้เข้าลงทุนพอร์ตพลังงานสะอาดในเวียดนามอย่างต่อเนื่อง โดยมีกำลังการผลิตรวม 218 เมกะวัตต์ สำหรับการลงทุนในครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการขยายขอบข่ายพอร์ตพลังงานสะอาดของเราสู่ธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานในเวียดนามเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะแพลตฟอร์มโซลาร์รูฟท็อปแบบครบวงจร ส่งผลให้เกิดการประสานพลังระหว่างบ้านปู และ Solar Esco เพื่อส่งเสริมจุดแข็งและต่อยอดธุรกิจซึ่งกันและกัน รวมทั้งการแลกเปลี่ยนความรู้และความเชี่ยวชาญระหว่างกัน ซึ่งเป็นการต่อยอดกลยุทธ์ Greener & Smarter และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศด้านพลังงานของบ้านปู (Banpu Ecosystem) ให้ครบวงจรยิ่งขึ้น และยังสามารถสร้างกระแสเงินสดได้ทันที”

การเข้าถือหุ้นใน Solar Esco ด้วยมูลค่าการลงทุน 14.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 466 ล้านบาท) ในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานและขยายแพลต์ฟอร์มพลังงานฉลาดของบ้านปู เพื่อเสริมสร้างธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปในการขยายตลาดและฐานลูกค้าในต่างประเทศ นอกจากนั้น การสร้างพันธมิตรในครั้งนี้ยังส่งผลให้ดีต่อโอกาสใหม่ ๆ ในการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องในอนาคต เช่น การผลิตแผงโซลาร์ ระบบไมโครกริดบนเกาะ กังหันลมขนาดเล็ก และโซลูชันสมาร์ทโฮม เป็นต้น

“การขยายการลงทุนในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เป็นสิ่งที่เราดำเนินการควบคู่ไปกับแผนการสร้าง New S-Curve ทั้งการขยายระบบนิเวศทางธุรกิจของบ้านปู เน็กซ์ และการลงทุนในกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานใหม่ ๆ เพื่อเร่งกระบวนการเปลี่ยนผ่านทางธุรกิจของบ้านปู (Banpu Transformation) โดยมุ่งเน้นโอกาสการลงทุนเพื่อบรรลุเป้าหมายกำลังการผลิตจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า 6,100 เมกะวัตต์ และสัดส่วน EBITDA จากกลุ่มธุรกิจพลังงานที่สะอาดขึ้นและเทคโนโลยีพลังงานมากกว่า 50% ในปี 68 ตอกย้ำจุดยืนที่ต้องการส่งมอบอนาคตพลังงานเพื่อความยั่งยืน”

นางสมฤดี กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 มี.ค. 65)

Tags: , , , , ,
Back to Top