นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 เมษายน 2565 บสย.พร้อมเปิดรับคำขอโครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme ระยะพิเศษ Soft Loan Extra วงเงิน 90,000 ล้านบาท ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 เพื่อช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการ SMEs ให้ยังคงได้รับสินเชื่อจากสถาบันการเงินอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ ลดภาระค่าธรรมเนียมการค้ำประกันของผู้ประกอบการ SMEs ช่วยประคับประคองกิจการ และพยุงการจ้างงานในประเทศ
โครงการค้ำประกันสินเชื่อ Soft Loan Extra เป็นมาตรการล่าสุดของรัฐบาลที่จะช่วยส่งเสริมสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือ กลุ่มลูกหนี้ พ.ร.ก. Soft Loan เดิม ให้ดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยใช้กลไก บสย. เข้ามาช่วยค้ำประกันสินเชื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับสินเชื่อภายใต้ พ.ร.ก. Soft Loan เดิมที่จะครบกำหนดเวลาการชำระหนี้คืนในเดือนเมษายน 2565 เป็นต้นไป
สำหรับสิทธิประโยชน์ของโครงการมี ดังนี้
- ระยะเวลาการค้ำประกันสินเชื่อสูงสุดไม่เกิน 8 ปี
- ได้รับยกเว้นค่าดำเนินการค้ำประกันสินเชื่อ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการ SMEs
- ค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 2 ปีแรก เพียง 1% ต่อปี โดยรัฐบาลชดเชยค่าธรรมเนียมแทนผู้ประกอบการ SMEs ให้ 0.75% (รวม 2 ปี 1.5% จากค่าธรรมเนียมค้ำประกัน ปกติ 1.75%)
- สิ้นสุดรับคำขอวันที่ 31 ธันวาคม 2566
นอกจากนี้ มติ ครม.ยังเห็นชอบการปรับปรุงค่าธรรมเนียมค้ำประกัน โครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme ระยะพิเศษ Soft Loan พลัส (โครงการเดิมที่ออกในปี 2563) โดยรัฐบาลสนับสนุนค่าธรรมเนียมแทนผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับสินเชื่อภายใต้ พ.ร.ก. Soft Loan ที่ 0.75% ต่อปี (รวม 2 ปี 1.5%)
นายสิทธิกร กล่าวว่า ทั้ง 2 มาตรการ ภายใต้โครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme ระยะพิเศษ Soft Loan Extra วงเงิน 90,000 ล้านบาท และโครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme ระยะพิเศษ Soft Loan พลัส จะช่วยให้ธุรกิจของผู้ประกอบการดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง ลดโอกาสการผิดนัดชำระหนี้ และช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs มีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอต่อการประกอบธุรกิจ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 มี.ค. 65)
Tags: SME, Soft Loan, Soft Loan พลัส, บสย., สิทธิกร ดิเรกสุนทร, สินเชื่อ