PTG ผนึก “ยูนิท” ทุ่ม 300 ลบ.ตั้ง MAXBIT ลุยธุรกิจโบรกเกอร์สินทรัพย์ดิจิทัล

นายปกเขตร รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมกซ์บิท ดิจิทัล แอสเซท จำกัด เปิดเผยว่า PTG จับมือกับ ยูนิท สตาร์ทอัพผู้ชำนาญด้านการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ทุ่มเม็ดเงินลงทุน 300 ล้านบาท ตั้ง แมกซ์บิท ดิจิทัล แอสเซท ขึ้นเพื่อทำธุรกิจนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Broker) โดยเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์สินทรัพย์ดิจิทัลที่ตอบโจทย์และเข้าถึงได้ทุกกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ปฏิวัติวงการสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย

ทั้งนี้ จากแนวโน้มของแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัล ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะสินทรัพย์ดิจิทัลที่เป็นบิทคอยน์ กลุ่ม PTG จึงได้ทำการศึกษาตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยเช่นกันเป็นระยะเวลากว่า 3 ปี โดยจะให้ความสนใจในเรื่องเทคโนโลยีบล็อกเชนค่อนข้างมาก ประกอบกับการที่กฎหมายและกฎระเบียบข้อบังคับในไทยมีความชัดเจนและเอื้ออำนวยมากขึ้นจึงทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลเติบโตสูงเพิ่มขึ้น จึงทำให้บริษัทฯมีแนวคิดที่จะลงไปแข่งขันในตลาดอย่างจริงจัง ซึ่งจะอาศัยฐานข้อมูลจากบัตรแม็กซ์ การ์ด (Max Card) ที่มีสมาชิกมากกว่า 17 ล้านคน ซึ่ง 7.29 ล้านคน เป็นกลุ่มอายุระหว่าง 18-40 ปี เป็นกลุ่มอายุที่ใกล้เคียงกับกลุ่มอายุที่นิยมลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล อย่าง คริปโทเคอร์เรนซี (cryptocurrency)

สำหรับรูปแบบบริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัท จะเน้นฟังก์ชั่นการซื้อขายที่ง่ายสะดวกและรวดเร็ว เป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงในการลงทุนได้ โดยมีลักษณะจะคล้ายกับ คอยน์เบส ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลจากสหรัฐ โดยแพลตฟอร์มที่บริษัทพัฒนาขึ้นมามีชื่อว่า “MAXBIT” ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง PTG และ บริษัท ยูนิท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีและการร่วมลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีทางการเงิน อย่างสินทรัพย์ดิจิทัล และการพัฒนาระบบบล็อกเชน

การร่วมลงทุนใน แมกซ์บิท ดิจิทัล แอสเซท ครั้งนี้มีทั้งหมด 4 ส่วน โดย PTG ถือหุ้น 35%, ยูนิท 35% ส่วนที่เหลืออีก 30% จะเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยคนไทย 2 ราย เงินลงทุนเริ่มต้น 300 ล้านบาท เพื่อขอใบอนุญาตประกอบการเป็นตัวแทนการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย และใช้พัฒนาระบบและแอพพิเคชั่นแพลตฟอร์มใหม่เพื่อให้ผู้ใช้ได้ทำการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ทุกกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

ปัจจุบัน บริษัทได้รับไลเซนส์มาแล้ว 4 ใบ จากทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อให้บริการทางการเงินภายใต้บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส (Max Card) ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับ อี มันนี่ ( E-Money ) และกระเป๋าเงินดิจิทัล (E-Wallet) โดยเฉพาะ ส่วนการยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจ Digital Asset Broker กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อยู่ระหว่างกระบวนการปรึกษาหารือและเตรียมเอกสาร

ด้านแพลตฟอร์มแอพพลิเคชั่นที่ทางผู้ใช้งานจะใช้เทรดนั้น สำหรับตัวผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯนั้นได้ทำการพัฒนาเสร็จเรียบร้อยแล้ว หากได้ใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. แล้วก็จะสามารถให้บริการได้ทันที โดยผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะมีความแตกต่างจากการแลกเปลี่ยนเงินของสินทรัพย์ดิจิทัล

สำหรับการเป็นนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล จะทำให้บริษัทฯสามารถจัดซื้อ จัดหา สินทรัพย์ดิจิทัลที่ลูกค้าอยากได้จากทุกหนแห่งมาเสนอราคาให้ลูกค้าได้ โดยจะมีการเปรียบเทียบราคาสินทรัพย์ดิจิทัลให้กับลูกค้าผ่านแอพพิเคชั่น MAXBIT พร้อมนำเสนอราคาที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ณ ตอนที่ลูกค้าซื้อกับแพลตฟอร์มบริษัทฯ

“การเข้ามาลงทุนในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในครั้งนี้ ทางกลุ่ม PTG มองการเติบโตในตลาดไม่ต่ำกว่าอันดับ 2 แน่นอน และจะก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ในอนาคตในที่สุด ซึ่งคงต้องจับตามองกันต่อไป สุดท้ายแล้วหากเราประสบความสำเร็จ สิ่งที่เราพัฒนาขึ้นมานั้น เชื่อว่าจะเปลี่ยนวงการสินทรัพย์ดิจิทัลในไทยได้จริงๆ รวมถึงจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่กลุ่ม PTG จะสามารถสร้างรายได้เพิ่มจากธุรกิจ Non-oil อย่างยั่งยืนต่อไป”

นายปกเขตร กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 มี.ค. 65)

Tags: , , , , , , , , ,
Back to Top